น้อง ๆ เคยเป็นกันไหม ? เข้านอนเร็วหรือนอนเยอะแค่ไหนก็ยังรู้สึกง่วงอยู่ดี ทำให้ตื่นมาแบบไม่สดใส สมองไม่ไบร์ท
จนเรียนหนังสือไม่เข้าหัวอีก T_T
ใครที่กำลังเผชิญปัญหากับการนอนแบบนี้อยู่ พี่ขอบอกเลยว่าเป็นเรื่องปกติน้า เพราะน้อง ๆ อาจจะกำลังหลับและตื่นไม่ตรงกับนาฬิกาของร่างกายอยู่นั่นเอง ซึ่งวันนี้พี่จะมาช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการนอนให้ ทั้งการนอนสำคัญยังไง,
ควรนอนวันละกี่ชั่วโมง และเวลานอนที่เหมาะสมคือตอนไหน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยยย
สนใจหัวข้อไหน ... กดอ่านเลย
Toggleการนอนสำคัญยังไง ?
หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาว่าควรนอนหลับประมาณ 7 – 8 ชั่วโมง / วัน ซึ่งจำนวนชั่วโมงนี้นับเป็น 1 ใน 3 ของชีวิตแต่ละวันของคนเราเลย โดยในช่วงที่นอนหลับ ร่างกายและอวัยวะต่าง ๆ ของเราจะได้พักผ่อนไปในตัว เพื่อทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ รวมถึงการปรับสมดุลต่าง ๆ ภายในร่างกายด้วย
ดังนั้นการนอนหลับจึงส่งผลต่อสุขภาพของน้อง ๆ โดยตรงเลย และถ้าน้อง ๆ นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอก็จะส่งผลเสียอีกเยอะมากก เช่น
- สมาธิและความจำแย่ลง อาจส่งผลต่อการเรียนและอ่านหนังสือ
- ภูมิคุ้มกันตก ทำให้ร่างกายป่วยง่ายขึ้น
- เป็นสาเหตุของการเกิดโรคร้ายแรงต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง
- น้ำหนักขึ้น เพราะบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ
แต่ละวัยควรนอนวันละกี่ชั่วโมง ?
อย่างที่พี่เกริ่นในหัวข้อที่แล้วว่า โดยทั่วไปคนเราจะนอนประมาณ 7 – 8 ชั่วโมง / วัน แต่ที่จริงแล้วจำนวนชั่วโมงที่ควรนอนจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับช่วงวัยและอายุ ตามภาพด้านล่างนี้เลยน้า
ซึ่งนอกจากเรื่องอายุแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อจำนวนชั่วโมงการนอนอีกด้วย เช่น กรรมพันธ์ุ,
โรคประจำตัว, สภาพแวดล้อมในการนอนหลับ เป็นต้น
เวลานอนที่เหมาะสม คือตอนไหน ?
น้อง ๆ บางคนอาจจะเคยตื่นมาแล้วรู้สึกเพลียหรือไม่สดชื่นแม้จะนอนเยอะ หรือเข้านอนเร็วแล้วก็ตาม ซึ่งอาจเกิดจาก
การที่น้อง ๆ นอนและตื่นผิดเวลา ไม่ตรงตามกลไกของร่างกาย ดังนั้นพี่ขอแนะนำให้รู้จักกับ “กฎการนอน 90 นาที” ที่อาจช่วยแก้ไขปัญหานี้ให้กับทุกคนได้นั่นเอง
กฎการนอน 90 นาที คือ รูปแบบการนอนหลับที่เกี่ยวกับ วงจรการนอนหลับ ของคนเราที่แบ่งออกเป็นช่วงหลับตื้น
10 นาที และช่วงหลับลึก 80 นาที รวมกันได้ 90 นาที ซึ่งจะนับเป็น 1 รอบของวงจรการนอนหลับ โดยในระหว่างที่น้อง ๆ หลับอยู่ ร่างกายก็จะเข้าสู่ช่วงหลับตื้นและหลับลึกเป็นรอบแบบนี้ไปเรื่อย ๆ นั่นเอง
ซึ่งถ้าอยากตื่นนอนมาแบบไม่เพลีย น้อง ๆ ควรตื่นในตอนที่ร่างกายอยู่ในช่วงหลับตื้น โดยสามารถวางแผนการนอนได้ง่าย ๆ ด้วยการตั้งเวลาตื่นนอนที่ต้องการ แล้วนับย้อนไปครั้งละ 90 นาที ก็จะได้ช่วงเวลาที่ควรนอนแล้ว แต่ถ้าใครไม่อยากคำนวณเอง ก็สามารถดูจากภาพด้านล่างนี้ได้เลยยยย
การตื่นนอนมาแล้วรู้สึกไม่สดใสเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนสามารถเจอได้น้า ซึ่งสาเหตุก็อาจมาจากการที่เราตื่นในช่วงหลับลึก ไม่ใช่หลับตื้นอย่างที่พี่อธิบายไปเลย
ดังนั้นหลังอ่านบทความนี้จบ นอกจากเรื่องความสำคัญของการนอน จำนวนชั่วโมงที่คนเราควรนอนแล้ว น้อง ๆ สามารถนำกฎการนอน 90 นาที ไปวางแผนเวลานอนที่เหมาะสมกับตัวเองได้ เพื่อให้ตื่นมาแล้วไม่เพลีย มีแรงไปเรียนหรืออ่านหนังสือ และสดใสตลอดทั้งวันนั่นเอง แต่ถ้าใครลองทำตามกฎ 90 นาทีแล้วก็ยังมีอาการง่วงระหว่างวัน ก็สามารถเข้าไปดู 10 วิธีแก้ง่วงฉบับวัยเรียน ได้เลยน้า
บทความ แนะนำ
บทความ แนะนำ
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่อัปเดตอย่างเรียลไทม์ ได้ที่
Line : @smartmathpronews
FB : Pan SmartMathPro ติวคณิต By พี่ปั้น
IG : pan_smartmathpro
X : @PanSmartMathPro
Tiktok : @pan_smartmathpro