GPAX คืออะไร พร้อมแจกวิธีคิดเกรด

ช่วงนี้มีน้อง ๆ คนไหนกำลังกังวลเกี่ยวกับการสอบเข้าบ้างมั้ยเอ่ย พี่เข้าใจดีเลยน้า T_T เพราะนอกจากจะต้องตั้งใจอ่านหนังสือสอบแล้ว บางโรงเรียน / มหาลัยฯ ต้องใช้ GPAX เป็นเกณฑ์คัดเลือกเข้าเรียนด้วยนี่สิ 

แต่เอ๊ะ ! แล้ว “GPAX” คืออะไรน้า ? ใช่เกรดเฉล่ียที่เห็นกันทุกเทอมหรือเปล่า ? สำคัญแค่ไหน และต้องมีวิธีคิดคำนวณ
ยังไง วันนี้พี่จะมาเคลียร์ข้อสงสัยนี้พร้อมบอกเทคนิคเก็บเกรด 4 ให้ทุกคนเองงงง !

GPAX คือ เกรดเฉล่ียสะสม เป็นการเอาเกรดเฉล่ียของแต่ละเทอมมาคำนวณเพื่อหาค่าเฉล่ีย

GPAX ต่างกับ GPA ยังไง ?

GPAX แตกต่างจาก GPA น้า น้อง ๆ ต้องสังเกตกันให้ดีอย่าจำสับสน เพราะ GPA หมายถึงแค่เกรดเฉล่ียเฉย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเกรดเฉล่ียรายวิชาหรือเกรดเฉล่ียรายเทอม เช่น GPA วิชาคณิตศาสตร์ หรือ GPA ของม.4 เทอม 1 เป็นต้น

แต่ GPAX จะเป็นการเอา GPA หรือเกรดเฉล่ียไปคำนวณหาเกรดเฉล่ียสะสมอีกที เช่น ถ้าน้อง ๆ อยู่ม.6 เทอม 2 อยากรู้ว่าเกรดเฉล่ียสะสมของตัวเองทั้ง 5 เทอมเป็นเท่าไร น้อง ๆ ก็จะต้องเอา GPA  หรือเกรดเฉล่ียของตัวเองที่ผ่านมารวมกันตั้งแต่ ม.4 เทอม 1 ไปจนถึง ม.6 เทอม 1 ถึงจะได้เป็น GPAX หรือเกรดเฉล่ียสะสม 5 เทอมนั่นเอง

ความสำคัญของ GPAX

เมื่อรู้ความหมายไปแล้ว น้อง ๆ หลายคนก็อาจจะสงสัยแล้วว่าเจ้า GPAX หรือ เกรดเฉล่ียสะสมมีความสำคัญยังไงใช่ไหม จริง ๆ แล้วเกรดมีประโยชน์เยอะมากเลยน้า เช่น เป็นเกณฑ์คัดเลือกสอบเข้าม.4 หรือเกณฑ์สอบเข้ามหาลัยฯ ด้วย 

ถึงแม้ว่าในตอนนี้น้อง ๆ หลายคนอาจจะยังไม่มีแผนว่าจะเข้าเรียนที่ไหน หรือสถาบันที่น้อง ๆ อยากเรียนจะไม่ใช้เกรดเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก แต่พี่ว่าตั้งใจทำเกรดให้ดี ๆ สะสมไว้ก็ไม่เสียหายน้า เพราะเกรดอาจจะมีประโยชน์กับน้อง ๆ ในอนาคตก็ได้นั่นเอง

GPAX ดูตรงไหน ?

ท่ามกลางใบปพ. มากมายที่มีตั้งแต่ 1-9 ใบไหนที่จะสามารถบอกให้รู้ว่าตัวเองเคยเรียนไปกี่หน่วยกิตแล้วได้ ? ถ้าน้อง ๆ ลองเปิดดูจะเห็นว่าเอกสารแต่ละประเภทก็บอกข้อมูลเกี่ยวกับตัวน้อง ๆ ในแบบที่ต่างกันออกไป ดูได้ตามนี้เลย

ใบ ปพ. ประเภทต่าง ๆ ที่ใช้ดูเกรด

แต่ในการดู GPAX นั้น ไม่จำเป็นต้องไปเปิดหาทุกใบ มีแค่ใบปพ.1 ใบเดียวก็เพียงพอแล้ว ซึ่งในใบปพ.1 นี้เป็นใบที่จะแสดงผลการเรียนของน้อง ๆ พร้อมบอกหน่วยกิตที่เรียนไปแล้วอย่างครบถ้วนเลยล่ะ แถมยังเป็นเอกสารสำคัญที่ใช้สมัคร TCAS ตอนจะเข้ามหาลัยฯ อีกด้วย 

ซึ่งวิธีดูเกรดและหน่วยกิต ในใบปพ.1 ก็ง่ายมาก ๆ ในเอกสารจะมีช่องที่แสดงผลการเรียนเฉล่ียตลอดหลักสูตรอยู่แล้ว น้อง ๆ สามารถเอาจำนวนหน่วยกิตกับเกรดเฉล่ียแต่ละวิชาแต่ละเทอมไปคิดเป็นเกรด GPAX ได้เลย

วิธีคิดเกรด GPAX

คำถามต่อมาคือ ถ้าอยากจะลองคิดเกรดเฉล่ียสะสมเองจะทำได้ไหม ? ยากหรือเปล่า ? พี่ขอบอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิด เพราะน้อง ๆ สามารถลองทำด้วยตัวเองได้เลย มาลองทำไปพร้อมกันน้าาา

ซึ่งสิ่งที่ต้องเตรียมในการคิด GPAX ขึ้นอยู่กับว่าจะคิดกี่เทอม สมมติน้อง ๆ อยากจะคิดเกรด 5 เทอม สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือเกรดเฉล่ียและหน่วยกิตของทั้ง 5 เทอม หรือถ้าจะคิด 2 เทอม ก็ให้เอาเกรดเฉล่ียและหน่วยกิตของทั้ง 2 เทอมมาคิด

 

      วิธีคิด

  1. ให้น้อง ๆ เอาเกรดแต่ละวิชาคูณกับหน่วยกิต ทำแบบนี้ให้ครบทุกวิชาเลยน้า
  2. เอาผลคูณจากข้อ 1 มาบวกกัน
  3. เอาผลรวมจากข้อ 2 หารด้วยผลรวมของหน่วยกิตทั้งหมด
  4. พอได้เกรดออกมา 1 เทอมแล้วทำแบบนี้ให้ครบทุกเทอมที่จะเอามาคิดเกรดเฉล่ียสะสม แล้วทำแบบข้อ 1 อีกครั้ง

วิธีคำนวณเกรด 2 เทอม

คำนวณ GPAX 2 เทอม

วิธีคำนวณเกรด 5 เทอม

คำนวณ GPAX 5 เทอม

วิธีคิดเกรด GPAX สำหรับยื่นเข้ามหาลัยฯ

นอกจากจะมีวิธีคิดเกรด GPAX แบบ 5 เทอม และ 6 เทอมมาฝากแล้ว พี่ยังมีวิธีคิด GPAX ให้ได้ตามเป้าจากพี่ปั้น สำหรับน้อง ๆ ที่จะใช้ GPAX เป็นส่วนหนึ่งในการยื่นคะแนนเข้ามหาลัยฯ และอยากรู้ว่าควรจะทำเกรดให้ได้เท่าไรถึงจะผ่านเงื่อนไขของคณะ หรือสาขานั้น ๆ จะมีวิธีคิดยังไงบ้าง สามารถดูได้ตามด้านล่างนี้เลยย

ดูคลิปวิธีการคำนวณเกรดเฉล่ียให้ได้ตามเป้า

GPAX เยอะดียังไง ?

ทุกคนคงจะพอเข้าใจกันอย่างคร่าว ๆ ไปแล้วไปแล้วใช่ไหมว่า GPAX สำคัญยังไง และมีประโยชน์ยังไงบ้าง ?

เพราะโรงเรียนหรือมหาลัยฯ หลายแห่งก็มีการกำหนดเกณฑ์ GPAX เกรดเฉล่ียสะสมขั้นต่ำ หรือเอา GPAX มาคิดเป็นคะแนนรวมกับคะแนนอื่น ๆ การมี GPAX เยอะ ๆ ก็เลยเหมือนเป็นข้อได้เปรียบเพราะนอกจากจะช่วยให้ผ่านเกณฑ์คัดเลือกในบางที่แล้ว ก็อาจจะช่วยเพิ่มคะแนนเวลาเอาไปคิดรวมกับคะแนนสอบด้วย 

พี่จะยกตัวอย่างให้ดูเพิ่มเติมว่าการมี GPAX เยอะดียังไงบ้าง ไปดูตัวอย่างด้านล่างนี้กันเลยดีกว่า

ตัวอย่าง คุณสมบัติผู้สมัคร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เกณฑ์ GPAX คณะเภสัชศาสตร์ มช

จากตัวอย่าง ให้สังเกตตรงคำว่า “ไม่น้อยกว่า” 3.75 นั่นหมายความน้อง ๆ ว่าจะต้องมี GPAX “สูงกว่า” 3.75 คือมีเกรดเฉล่ียสะสม 3.76 ขึ้นไปเท่านั้นคุณสมบัติถึงจะผ่านน้า เห็นไหมว่าต่างกันแค่ 0.1 แต่ก็เป็นตัวตัดสินได้เลยว่าจะผ่านเกณฑ์ไหม ก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการมี GPAX เยอะ ๆ ถึงดีกว่านั่นเองง 

แชร์เทคนิค เรียนยังไงให้ได้เกรด 4

1. มีสมาธิเวลาอยู่ในชั่วโมงเรียน

พี่เข้าใจว่าเวลาอยู่ในห้องเรียน ก็จะมีน้อง ๆ หลายคนที่เบื่อ ง่วง ไม่อยากฟังที่คุณครูสอน และคิดว่าไปอ่านหนังสือเองดีกว่า แต่พี่เคยได้ยินมาว่า ถ้าฟังเรื่องราวผ่านการเล่าของคนอื่น จะช่วยให้จำได้มากกว่า ดังนั้นเวลาที่คุณครูพูด อยากให้น้อง ๆ ลองตั้งใจฟังดูนะ อาจจะเข้าใจเนื้อหาเพิ่มขึ้นด้วย  

และอีกอย่างคือคนที่ออกข้อสอบของโรงเรียนก็คือครูของน้อง ๆ เพราะงั้นบางครั้งในสิ่งที่ครูพูดมันอาจจะมีแนวข้อสอบแอบซ่อนอยู่ก็ได้ ถ้าน้อง ๆ ตั้งใจฟังในห้องเรียน ก็จะรู้ว่าเนื้อหาไหนเป็นส่วนสำคัญที่จะออกสอบ หรือเป็นแนวข้อสอบ ซึ่งจะช่วยให้การเตรีบมตัวสอบง่ายขึ้น เกรดก็จะออกมาดีตามไปด้วย ดังนั้นการตั้งใจเรียนในห้องเลยมีความสำคัญมากไม่แพ้เรื่องอื่นเลยยย 

2. ทำแบบฝึกหัดสม่ำเสมอ

การทำแบบฝึกหัดก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทบทวนบทเรียนให้น้องไปในตัว เป็นเหมือนเครื่องวัดความรู้ความเข้าใจของ
ตัวเอง ถ้านั่งฟังเนื้อหาอย่างเดียว แต่ไม่ได้ลงมือทำ น้อง ๆ ก็จะไม่รู้เลยว่าตัวเองเข้าใจเรื่องนี้จริง ๆ แค่ไหน 
และที่สำคัญ
แบบฝึกหัดทุกข้อ น้อง ๆ ควรทำด้วยตัวเองนะ ! แต่หลังจากทำเสร็จแล้ว ลองพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นหรือแชร์วิธีทำต่าง ๆ กับเพื่อนก็ได้น้า

น้อง ๆ คนไหนที่อยากจะลองหาโจทย์คณิตศาสาตร์มาฝึกทำ ก็สามารถดูใน คลังข้อสอบ ของ SmartMathPro ได้เลย เป็นคลังข้อสอบที่พี่ ๆ รวบรวมมาไว้ให้น้อง ๆ ได้ลองทำกัน มีทั้งข้อสอบรายปี ข้อสอบแยกบท คณิตประยุกต์ และ
แบบฝึกหัดเสริมพลัง ลองเลือกดูแล้วลองทำกันได้เลย !

3. สรุปเนื้อหาที่เรียนตามความเข้าใจ

วิธีนี้เป็นวิธีที่ได้ผลมาก ๆ เลยล่ะ น้อง ๆ รู้กันหรือเปล่า ? ทุกครั้งหลังจากเรียนเสร็จแล้ว ให้น้อง ๆ สรุปสิ่งที่เรียนเพื่อเก็บไปทบทวนทีหลัง สักวันละประมาณวันละ 1 ชั่วโมง หรือช่วงเวลาสั้น ๆ สัก 5 นาทีก่อนนอนก็ได้ 

วิธีนี้จะช่วยให้จำเนื้อหาของสิ่งที่เรียนไปแล้วได้มากขึ้น นอกจากนี้การทำสรุปหรือทำแบบฝึกหัด จะช่วยให้รู้ว่าตัวเองเข้าใจเนื้อหาแค่ไหน พอน้องเข้าใจเนื้อหาแล้ว มันก็จะอยู่ในหัวของน้อง ๆ ตลอดเวลา เข้าไปนั่งในห้องสอบปั๊บก็ อ๋ออออ ! ทันทีเลยล่ะ ^_^

4. ส่งการบ้านให้ครบ ไม่ขาดเรียนบ่อย

คงมีหลายคนที่รู้สึกว่าโรงเรียนให้การบ้านเยอะเลยไม่อยากทำ หรือบางคนก็ขาดเรียนบ่อยในเทอมสุดท้ายเพราะคิดว่าเกรดไม่จำเป็นอีกต่อไป แต่ถ้าวันหนึ่งน้อง ๆ เจอเป้าหมายใหม่หรือเป้าหมายเดิมเปล่ียนไปแล้ว และเป้าหมายของน้อง ๆ ก็ต้องใช้เกรดเป็นตัวช่วยขึ้นมา ถ้าน้อง ๆ เก็บเกรดให้ดีตั้งแต่ตอนนี้ อาจจะมีประโยชน์สำหรับน้อง ๆ ในอนาคตก็ได้น้า

แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ก็เริ่มจากการหมั่นส่งการบ้านและเข้าเรียนให้ครบตามที่โรงเรียนกำหนดนี่แหละ เพราะจะช่วยเรื่องคะแนนเก็บได้ รู้ไหมว่ามีบางคนที่คะแนนเก็บเยอะ ยังไม่ทันสอบก็ได้เกรดดี ๆ ไปแล้ว แล้วยิ่งเพิ่มคะแนนสอบไปอีก บอกเลยว่าเกรด 4 ลอยมาเห็น ๆ !!

5. ทบทวนบทเรียน

เมื่อมีเวลาว่าง พี่อยากให้น้อง ๆ ทุกคนทบทวนบทเรียนอยู่เสมอ สามารถเลือกทางที่ตัวเองถนัดได้เลย ไม่ว่าจะ
หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ได้ทั้งหนังสือเรียน, สรุปเนื้อหาตามเว็บไซต์ต่าง ๆ หรือสรุปของน้อง ๆ เอง ซึ่งทำได้ทุกเวลาเลยนะ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นวันธรรมดาหรือหลังเลิกเรียนเท่านั้น

แบ่งเวลาว่างจากวันหยุดมาสักนิดหนึ่ง ถือว่าเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ด้วยน้า ถึงแม้ว่าการอ่านจะไม่สามารถทำให้จำเนื้อหาหนังสือได้ทั้งเล่ม แต่ถ้าน้อง ๆ อ่านหนังสือทบทวนบทเรียนบ่อย ๆ เมื่อถึงเวลาเจอข้อสอบ ก็ยังจะพอคุ้น ๆ เพราะว่าเคยเห็นเนื้อหานี้ผ่านตามาแล้ว

และสำหรับน้อง ๆ บางคนที่ทำกิจกรรมเยอะ หรือไม่สะดวกพกหนังสือไปอ่านเวลาไปข้างนอก อีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ได้ทบทวนบทเรียนและได้ฝึกทำโจทย์ใหม่ ๆ ที่แตกต่างออกไปจากในห้องเรียนนั่นก็คือการเรียนพิเศษนั่นเอง

เพราะทุกวันนี้การเรียนพิเศษไม่จำเป็นต้องไปนั่งเรียนในห้องทุกครั้งอีกแล้ว แต่มีตัวเลือกอย่างการเรียนเป็นคอร์สออนไลน์ต่าง ๆ ใน Youtube ที่จะช่วยให้น้อง ๆ สามารถเรียนได้ทุกที่และทุกเวลาตามที่ตัวเองสะดวกเลย อยู่ที่ไหนก็ได้ความรู้เหมือนนั่งอยู่ในห้องเรียนเลยล่ะ

6. จับกลุ่มติวกับเพื่อน

น้อง ๆ บางคนอาจกำลังลังเลว่าควรไปจับกลุ่มติวกับเพื่อนดีไหม ? จะช่วยกันได้มากแค่ไหน ? จริง ๆ แล้ว ถ้าน้อง ๆ
แบ่งเวลาเล่นและเวลาติวให้พอดี การติวกับเพื่อนก็จะช่วยให้ไม่เครียดเหมือนเวลาอยู่ในห้องเรียน

นอกจากจะไม่เครียดเพราะมีเพื่อนอ่านหนังสือเป็นเพื่อนแล้ว ยังทำให้น้อง ๆ ได้รู้ในสิ่งที่บางครั้งตัวเองอาจจะยังไม่เข้าใจดี ตรงนี้แหละ ที่จะเป็นโอกาสให้น้อง ๆ ได้ความรู้เพิ่มจากเพื่อนที่เข้าใจเรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดีเลย !

GPAX เป็นสิ่งสำคัญในการยื่นเข้ามหาลัยฯ เลย เพราะหลายคณะที่คัดเลือกผ่านระบบ TCAS ก็มีการกำหนดเกรดขั้นต่ำหรือใช้ GPAX เป็นเกณฑ์การคัดเลือกด้วย ดังนั้นการรักษาเกรดให้ดีตั้งแต่ตอนนี้จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการสอบติด
มหาลัยฯ ที่อยากเข้านั่นเอง แต่นอกเหนือจากเกรดแล้ว คะแนนสอบก็สำคัญมากไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นสนาม TGAT, TPAT, A-Level ถ้าน้อง ๆ เตรียมสอบสนามเหล่านี้ดี ก็จะยิ่งทำให้เราพร้อมลงสนามจริงมากขึ้นน้า

สำหรับ Dek68 ที่อยากจะเริ่มเตรียมสอบ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี อยากได้คนช่วยไกด์การเก็บเนื้อหาและฝึกทำโจทย์พี่ก็ขอแนะนำตัวช่วยอย่าง คอร์สเตรียมสอบมหาลัยฯ ของ SmartMathPro เล้ยย มีให้เลือกมากมายทั้งสนาม TGAT/TPAT หรือ A-Level และสอนโดยติวเตอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละวิชาด้วยไม่ว่าจะเป็น พี่ปั้น, อ.ขลุ่ย, พี่หมออู๋, ครูกอล์ฟ,
พี่ลัคกี้, และพี่เกม GAT ENG COOL COOL

โดยในแต่ละคอร์สจะสอนปูพื้นฐานแบบละเอียด อิงตาม Test Blueprint ปีล่าสุด (ใครที่พื้นฐานไม่แน่นก็สามารถเรียนได้) พร้อมพาตะลุยโจทย์แบบไต่ระดับ ตั้งแต่โจทย์ซ้อมมือไปจนถึงข้อสอบเก่าหรือโจทย์ที่ใกล้เคียงกับข้อสอบจริง แถมยังแจกเทคนิคในการทำข้อสอบที่จะช่วยให้น้อง ๆ ทำข้อสอบได้เร็วขึ้นและช่วยเพิ่มโอกาสในการอัปคะแนนให้อีกด้วย สำหรับ
น้อง ๆ คนไหนที่สมัครตอนนี้ รับฟรี Unseen Mock Test ชุดพิเศษ และสิทธิพิเศษต่าง ๆ ประจำเดือน ถ้าใครสนใจ คลิก เข้ามาดูรายละเอียดแต่ละคอร์สได้เลยยย

บทความ แนะนำ

บทความ แนะนำ

TPAT1 คืออะไร? พร้อมเทคนิคอ่านหนังสือจากรุ่นพี่
TPAT1 คืออะไร ? สอบอะไรบ้าง ? พร้อมตัวอย่างแนวข้อสอบและคลิปติว
A-Level คืออะไร
A-Level คืออะไร? มีกี่ข้อ? มีวิชาอะไรบ้าง? สรุปครบพร้อมคลิปติว
Dek68 จะสอบเข้ามหาลัยฯ ต้องเตรียมตัวยังไง ?
Dek68 สอบเข้ามหาลัยฯ ควรเริ่มยังไง? สรุปทุกขั้นตอนควรรู้ของ TCAS68
กำหนดการ TCAS68
TCAS68 สอบวันไหน? ลงทะเบียน MyTCAS68 เมื่อไหร่? สรุปตารางสอบ Dek68 ฉบับอัปเดตล่าสุด
เตรียมตัวอ่านหนังสือ TCAS68 ยังไงให้สอบติด
เตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยยังไง? สรุปและแจกเทคนิคอ่านหนังสือสอบ TCAS

สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่อัปเดตอย่างเรียลไทม์ ได้ที่

Line : @smartmathpronews 

FB : Pan SmartMathPro ติวคณิต By พี่ปั้น 

IG : pan_smartmathpro

X : @PanSmartMathPro 

Tiktok : @pan_smartmathpro

Share