ทันตแพทย์ เป็นหนึ่งในคณะที่มียอดการสมัครในระบบ TCAS อันดับต้น ๆ เกือบทุกปีเลย ซึ่งก็อาจจะเพราะเป็นคณะในฝันของน้อง ๆ หลายคน ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นหมอฟันกันใช่มั้ยย
วันนี้พี่ก็เลยพารุ่นพี่คนเก่ง มาแชร์ประสบการณ์การเรียนและเตรียมตัวเข้าคณะทันตแพทยศาสตร์ พร้อมตอบทุกคำถามที่พี่ได้รวบรวมมาจากทุกช่องทางเลย แถมด้วยคลังคำศัพท์ของทันตแพทย์อีกเพียบ น้อง ๆ คนไหนที่กำลังสนใจคณะนี้ ห้ามพลาดเลยน้า ไปดูกันเลย !
สนใจหัวข้อไหน ... กดอ่านเลย
Toggleค้นหาตัวเองและเตรียมตัวสอบเข้า
สวัสดีค่ะน้อง ๆ ทุกคน พี่ชื่อ “พลอย” นะคะ ตอนมัธยมปลายเรียนสายวิทย์-คณิต ปัจจุบันกำลังศึกษาที่คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ชั้นปีที่ 6 ค่ะ
ค้นหาตัวเองเจอได้ยังไง ?
พี่รู้ตัวว่าอยากจะเข้าเรียนทันตะ ตอนประมาณ ม.2-3 ค่ะ ต้องขอเกริ่นก่อนว่า พี่มีครอบครัวที่อยากจะให้ลูกเรียนหมอมาก ๆ พี่ว่าหลายครอบครัวก็คงมีความคิดแบบนี้เหมือนกันเนอะ ซึ่งตอนนั้นตัวพี่เองก็ไม่ได้อยากจะทำตามความต้องการของพวกเขาสักเท่าไหร่ แต่อีกใจนึงก็ไม่อยากจะขัดหมือนกัน พี่ก็เลยลองไปศึกษาข้อมูลดูก่อนว่า เรียนเป็นยังไง น่าสนใจมั้ย เราชอบมั้ย จนพี่รู้สึกว่า ก็เป็นอาชีพที่มั่นคงในระดับนึงเลยนะ
แล้วส่วนตัวพี่ก็เป็นคนชอบทำงานศิลปะอยู่แล้วด้วย สุดท้ายก็เลยมาจบที่ทันตแพทย์ คิดว่าคงเหมาะกับตัวเองที่สุดในบรรดากลุ่มแพทย์ทั้งหมดแล้ว น่าจะสนุกดีด้วย เพราะถ้าเรียนแพทย์คงต้องอ่านหนังสือหนักมาก ๆ (แต่ความจริงแล้ว หนักไม่ต่างกันเลยค่ะ > <)
เทคนิคเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ช่วงม.4-6 น้อง ๆ อาจจะยังไม่รู้ว่า ตัวเองอยากที่จะเรียนอะไร แต่พี่อยากแนะนำให้รีบหาตัวเองให้เจอนะคะ จะได้มีเวลาในการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยเริ่มต้นจากการดูก่อนว่า คณะนั้นต้องใช้คะแนนอะไรในการสอบเข้าบ้าง อย่างตัวพี่อยากจะเข้าคณะทันตแพทยศาสตร์ ก็จะต้องสอบ กสพท ด้วย พี่ก็เลยแบ่งเวลาเรียนในห้องเรียน กิจกรรม และเรียนพิเศษเสริม ให้บาลานซ์กัน เพราะช่วงม.5-6 จะมีกิจกรรมเยอะมาก ทั้งงานกีฬาสี งานปัจฉิมอีก
สำหรับพี่ “เล่นก็เล่นให้เต็มที่ อ่านหนังสือก็ต้องอ่านให้เต็มที่เหมือนกัน” โดยจะต้องกำหนดเวลาให้ชัดเจน เช่น เราจะเล่นถึงแค่ 6 โมงเย็นนะ แล้วก็จะต้องไปเรียนพิเศษต่อจนถึง 2 ทุ่ม หลังจากนั้นก็กลับบ้าน ทานข้าว อาบน้ำให้เรียบร้อย และเริ่มอ่านหนังสือสอบตั้งแต่ 3 ทุ่มไปจนถึงตี 1 เป็นต้น แต่อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างของพี่ที่มาแชร์ให้ฟังนะคะ พี่มองว่าทุกคนมีช่วงเวลาในชีวิตที่ไม่เหมือนกัน เพียงแค่น้อง ๆ เลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับตัวเอง และทำให้เต็มที่ที่สุดก็พอแล้วค่ะ
สำหรับการค้นหาตัวเองและเทคนิคเตรียมตัวสอบเข้าฯ จะขึ้นอยู่กับแต่ละคน อาจไม่ต้องใช้วิธีตามนี้เป๊ะ น้อง ๆ เอาเทคนิคของพี่พลอยไปปรับใช้เป็นเวย์ของตัวเองได้เลยย สำหรับใครที่มีแพลนจะสอบเข้าคณะทันตะหรือคณะสายหมออื่น ๆ อย่างแพทย์ สัตวะ เภสัช พี่แนะนำว่าเริ่มเตรียมตัวไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยก็ดีน้าา จะได้มีเวลาทบทวนบทเรียนเยอะ ๆ เพราะ TPAT1 มีสัดส่วนคะแนนในการใช้ยื่นถึง 30% เลยทีเดียว ถ้าน้องเก็บคะแนนส่วนนี้ได้จะเพิ่มโอกาสสอบติดแน่นอน
ซึ่งถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเตรียมตัวสอบเข้ายังไง ลองมาดูคอร์สของพี่ก่อนได้ พี่มีคอร์สเตรียมสอบ TPAT1 สำหรับ Dek68 โดยจะสอนเนื้อหาเพื่อให้น้อง ๆ เข้าใจคอนเซ็ปต์ของทั้ง 3 พาร์ตมากที่สุด แถมยังพาตะลุยโจทย์หลากหลาย (อัปเดตให้ถึงปีล่าสุดเลย !!) พร้อมแจกเทคนิคช่วยอัปคะแนน ใครสนใจ คลิก ไปดูรายละเอียดก่อนได้เลยยยย
Q&A รวมคำถามเกี่ยวกับคณะทันตแพทยศาสตร์
เรียนทันตะ วิชาไหนยากที่สุด ? ง่ายที่สุด ?
สำหรับพี่ วิชาที่ไม่ชอบและรู้สึกว่ายากมากที่สุด คือ ทันตกรรมประดิษฐ์ เป็นวิชาเกี่ยวกับการทำฟันปลอม จึงต้องเกี่ยวข้องกับความละเอียดและความสวยงามมาก ๆ เช่น ในการทำฟันปลอม เราก็จะต้องนำฟันมาเรียงบนฐานฟันปลอม แล้วนำขี้ผึ้งมาแปะให้เป็นรูปเหงือก หลังจากนั้นก็นำมาประกบกันให้พอดี เหมือนกับในช่องปากของคนไข้ ดังนั้นจึงเป็นวิชาที่ต้องสวยด้วย ละเอียดด้วย พี่เลยรู้สึกว่ามันยากมาก ๆ เลยค่ะ
ส่วนวิชาที่พี่ชอบและรู้สึกว่าง่ายที่สุด คือ ศัลยกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการถอนฟัน ผ่าฟันคุด เพราะมันไม่ต้องใช้ความละเอียดมากเท่าไหร่ แต่ก็มีสิ่งที่ต้องระวังเหมือนกันนะคะ เช่น Anatomy ในส่วนนั้น ๆ , ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ , ระวังโดนเส้นประสาทคนไข้ และระวังเลือดออกเยอะ เป็นต้น
พี่มองว่าจะยากหรือง่าย ขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดของแต่ละคนมากกว่า เพราะเพื่อน ๆ พี่เอง ก็มีวิชาที่มองว่ายากและง่ายแตกต่างกันหมดเลย น้อง ๆ ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ยังไงทุกคนก็มาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ด้วยกันในชั้นเรียนหมดเลยค่ะ
กลัวเลือด จะเรียนทันตะได้มั้ย ?
เรียนได้อยู่แล้วค่ะ แต่อาจจะยากหน่อย เพราะยังไงก็จะต้องเจอในการเรียนและการทำงานจริงค่อนข้างเยอะ อย่างเช่นการขูดหินปูด ก็จะมีเลือดออกมาเยอะมาก ๆ ขึ้นอยู่กับว่าน้อง ๆ กลัวขนาดไหนมากกว่า ซึ่งส่วนใหญ่คนที่กลัวเลือด เพราะว่ากลัวความเจ็บปวดใช่มั้ยคะ แต่พอเราได้มาเรียนและสัมผัสแล้ว ก็จะรู้เลยว่า จริง ๆ แล้วที่เลือดออกเยอะ ๆ คนไข้ไม่ได้เจ็บนะ เพราะมีการฉีดยาชาเรียบร้อยแล้ว อะไรประมาณนี้ค่ะ
ชอบปวดมือ ปวดหลัง ปวดไหล่ นั่งนานไม่ได้ จะเรียนทันตะได้มั้ย ?
อาการปวดเมื่อยเหล่านี้ เกิดจากการนั่งผิดท่านะคะ โดยการทำฟัน จะมีหลักการนั่งแบบ Ergonomic คือ นั่งวางขา 90 องศา ศอก 90 องศา และห้ามก้มหน้า ถ้าหากเรานั่งแบบนี้ได้ตลอด อาการปวดเมื่อยต่าง ๆ จะแทบไม่เกิดขึ้นเลยค่ะ ซึ่งวิธีนี้ก็สามารถนำไปใช้ได้กับทุกกิจกรรมเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น นั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือ ในชีวิตประจำวันก็ช่วยได้เช่นกัน แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ต้องพึ่งหมอนวด หรือนักกายภาพบำบัดให้เขาช่วยแล้วล่ะค่ะ
ถนัดซ้าย เรียนทันตะได้มั้ย ?
ทุกคนเรียนได้หมดเลยค่ะ แต่สำหรับคนที่ถนัดซ้ายก็จะต้องฝึกฝนมากกว่าคนอื่น ๆ หน่อย เพราะเครื่องมือส่วนมากจะถูกผลิตมาสำหรับใช้งานด้วยมือขวา คนที่ถนัดซ้าย ก็จะต้องฝึกใช้เครื่องมือเหล่านั้นด้วยมือขวาให้ได้ค่ะ ซึ่งค่อนข้างจะยากลำบากอยู่พอสมควรเลย เพราะต้องทำงานในสเกลที่เล็กมาก ๆ หน่วยมิลลิเมตรกันเลยทีเดียว
ดังนั้นถ้าเราพร้อมจะฝึกฝน ก็ไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ ขอแค่สู้ก็พอ ! อีกอย่างเราก็มองเป็นข้อดีได้นะคะ เพราะถ้าเราทำได้ เราจะเก่งกว่าคนปกติอีก ใช้ได้ทั้งมือซ้ายและมือขวาเลย
ไม่เก่งศิลปะเรียนได้มั้ย ?
น้อง ๆ ไม่ต้องกังวลเลยนะคะ ยังไงทุกคนก็ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ที่มหาวิทยาลัยพร้อม ๆ กัน เพราะไม่มีใครทำฟันเป็นตั้งแต่แรก ต้องมาฝึกฝนไปด้วยกันอยู่ดีค่ะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าถ้าหากมีทักษะด้านศิลปะติดตัวมา ก็อาจจะช่วยให้ไปได้เร็วมากยิ่งขึ้นนะคะ ดังนั้นพี่อยากจะบอกว่า ไม่เก่งศิลปะ ก็ไม่เป็นไรเลย ขอแค่มีใจอยากที่จะเรียนรู้และความตั้งใจจริง แค่นี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ ทุกคนฝึกฝนกันได้
จำเป็นต้องฝึก Handskill เพิ่มมั้ย ?
จริง ๆ ก็ไม่จำเป็นนะคะ แต่ถ้าน้อง ๆ มีเวลาว่างและอยากที่จะฝึกฝนเพิ่มเติม พี่แนะนำให้ลองหาเทียนมาแกะสลักดูค่ะ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยฝึกจิตใจตัวเองว่า ระหว่างที่เราทำ รู้สึกทรมานหรือเปล่า ต้องใช้ความอดทนสูงเกินไปมั้ย เพราะถ้าหากเราไม่สามารถทำได้ ความอดทนไม่เพียงพอ เหนื่อย เมื่อย ไม่เอาแล้ว ก็อาจจะไม่เหมาะกับการเรียนทันตะ
เพราะทันตแพทย์จะต้องอยู่กับช่องปากคนไข้ตลอดเวลา เหมือนกับการทำงานศิลปะที่ละเอียดยิบ แต่ต่างกันตรงที่ เราไม่สามารถหยุดกลางคันได้ เพราะเรากำลังทำอยู่กับปากคนไข้ ดังนั้น ถ้าน้อง ๆ ชอบ ทนได้ ก็ลุยเลยค่ะ แต่ถ้าไม่ชอบ แล้วอยากเรียนจริง ๆ ก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจ ที่จะมาฝึกฝนอย่างจริงจังด้วยนะคะ
กลัวหมอฟัน กลัวการไปทำฟัน เรียนทันตะได้มั้ย ?
ความกลัว พี่มองว่าเป็นข้อดีนะ เพราะเราก็จะรู้ว่า คนไข้ที่กลัว เขากลัวอะไรกัน เขาจะมีข้อกังวลอะไรบ้าง เช่น กลัวเจ็บ กลัวเสียงเครื่องมือ อีกอย่างพอเราเป็นนักศึกษาทันตแพทย์ เราก็เป็นคนลงมือทำฟันเองแล้ว ไม่ใช่คนที่โดนทำแล้วนะ
ดังนั้นเราก็จะไม่กลัวเหมือนเดิม เพราะเรารู้ว่าเสียงที่เกิดขึ้นมาจากอะไร เป็นขั้นตอนและกระบวนการไหน พี่ว่าเราก็จะกลัวน้อยลงเรื่อย ๆ จนหายกลัวไปเองนะคะ
จะรับมือกับคนไข้ ที่กลัวหมอฟันได้ยังไง ?
เราจะรู้อยู่แล้วว่า เวลาทำฟัน คนไข้จะกลัวอะไรบ้าง เช่น กลัวหมอเอาเครื่องมืออะไรมาทำให้ก็ไม่รู้ เราก็จะต้องอธิบายกับคนไข้ว่า เรากำลังทำอะไร เครื่องมือนี้คืออะไร ขั้นตอนนี้เจ็บนิดนึงนะคะ ไม่ต้องกลัวนะคะ เป็นต้น เพื่อให้คนไข้ได้เตรียมใจก่อน ก็จะช่วยให้เขาผ่อนคลายได้เยอะเลยค่ะ
ส่วนถ้าคนไข้กลัวทำฟันแล้วจะเจ็บ เราก็จะต้องอธิบายให้เขารู้ว่า ถ้าปล่อยเอาไว้ แล้วไม่รีบรักษาตั้งแต่ตอนนี้ อาการเจ็บปวดก็จะไม่หายไป และจะยิ่งเจ็บมากขึ้นในอนาคตได้ อดทนนิดนึงนะคะ จะได้หายไว ๆ พร้อมบอกสาเหตุและวิธีการแก้ไขปัญหาให้กับคนไข้นั่นเอง
ทันตแพทย์ จำกัดส่วนสูงมั้ย ?
ส่วนสูงไม่เกี่ยวเลยค่ะ เพราะในการปฏิบัติงาน เตียงทำฟันสามารถปรับขึ้นลงได้ตามใจชอบเลย ส่วนสูงไม่มีผลแน่นอนค่ะ แต่ก็จะมีในกรณีที่หมอฟันตัวสูงใหญ่มาก ๆ เด็กน้อยก็จะกลัวนิดนึงนะคะ > <
คณะทันตแพทยศาสตร์ไม่มีปิดเทอมจริงมั้ย ?
อันที่จริงก็มีปิดเทอมนะคะ แต่จำนวนวันที่ปิดค่อนข้างน้อย ประมาณ 8 วัน ส่วนปิดเทอมเล็กก็จะหยุดแค่วันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้นเลย หรือถ้าเป็นปิดเทอมใหญ่ ก็จะประมาณ 1-2 เดือน ขึ้นอยู่กับชั้นปีที่เรียนอยู่ด้วยค่ะ
คณะทันตแพทยศาสตร์ ค่าเทอมแพง จริงมั้ย ?
ค่าเทอมแพง ค่าใช้จ่ายเยอะ จริงค่ะ ! เพราะมีอุปกรณ์ประกอบการเรียนเยอะมาก และราคาสูง ซึ่งบางอย่างใช้แล้วก็ต้องทิ้งเลย ไม่สามารถใช้ซ้ำอีกได้ เช่น ใบมีด หัวกรอ ราคาแต่ละชิ้นอยู่ที่ 200-500 บาท จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมค่าทำฟันถึงแพงจัง เพราะต้นทุนค่าเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ราคาสูงนั่นเอง
และด้วยความที่พี่เลือกเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนด้วย ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเองแทบทุกอย่าง แต่สำหรับมหาวิทยาลัยรัฐบาล ก็จะมีทั้งเสียค่าใช้จ่ายเอง และยืมอุปกรณ์ของทางมหาวิทยาลัยได้ค่ะ
ทันตแพทย์ ต้องใช้ทุนมั้ย ?
ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยรัฐบาลก็จะต้องใช้ทุนนะคะ โดยวิธีการจับฉลากเลือกโรงพยาบาล แต่ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนก็ไม่ต้องใช้ทุนเลยค่ะ ซึ่งหลังจากใช้ทุนครบ ทันตแพทย์ทุกคนก็สามารถไปทำงานตามคลินิก/โรงพยาบาล เปิดคลินิกของตัวเอง หรือเรียนต่อเฉพาะทางตามปกติได้เลย
แพทย์ กับ ทันตแพทย์ ต่างกันยังไง ?
พี่มองว่าต่างกันมาก ๆ เลยนะ เพราะทันตแพทย์จะเน้นด้าน Handskill เหมือนการทำศิลปะในช่องปากคน โดยจะต้องรู้พื้นฐานร่างกายมนุษย์เหมือนกันกับแพทย์ แต่จะเน้นเรียนในบริเวณหัวถึงคอ ซึ่งเป็นงานที่ละเอียดมาก เพราะฟันซี่เล็กนิดเดียว แต่แพทย์จะต้องรักษาทั้งร่างกาย อาศัยความรู้รอบด้านในการรักษาคนไข้ที่กว้างและลึกกว่านั่นเอง
มีอะไรอยากฝากถึงน้อง ๆ ที่กำลังสนใจคณะทันตแพทย์มั้ย ?
พี่เข้าใจความรู้สึกของน้อง ๆ ตอนนี้มากเลย กว่าจะผ่านไปได้ในแต่ละวัน มันยากมากเลยเนอะ สำหรับน้องที่รู้และยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากจะเรียนอะไร รีบหาตัวเองให้เจอนะคะ อ่านหนังสือเตรียมตัวสอบให้เต็มที่ เพราะการเข้ามหาวิทยาลัย มันค่อนข้างเปลี่ยนชีวิตเลยนะ ว่าเราจะเลือกเดินไปทางไหนในอนาคต
ศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกนะคะ คิดให้ดีก่อนว่า เราชอบจริงมั้ย ไม่อย่างนั้นจะเสียเวลาเปล่าได้ ถ้ามั่นใจว่า เลือกไม่ผิดแน่ ๆ ก็ตั้งใจให้เต็มที่เลย ยังไงมันก็ต้องมีท้อบ้างอยู่แล้วเนอะ ไม่ว่าจะคณะไหน ก็เหนื่อยเหมือนกันหมดแหละ
แต่ถ้าหมดไฟ ก็ให้นึกถึงวันแรกที่เราดีใจ ตอนประกาสผลว่าติดคณะนี้ดูนะคะ สู้ ๆ พี่เป็นกำลังใจให้ค่ะ
บทสัมภาษณ์และคำถาม Q&A เกี่ยวกับคณะทันตแพทยศาสตร์ที่พี่เอามาฝากทุกคนเป็นยังไงบ้าง ถูกใจกันมั้ยย เชื่อว่าหลังอ่านบทความนี้จบ ก็คงจะทำให้ทั้งคนที่สนใจคณะนี้อยู่แล้วหายข้องใจในบางคำถาม หรือน้อง ๆ ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจก็ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนทันตแพทย์มากขึ้น แต่ถ้าใครอยากรู้เกี่ยวกับคณะทันตแพทยศาสตร์ให้มากขึ้นว่าคณะนี้เรียนอะไร เรียนกี่ปี มีสาขาอะไรบ้าง มีมหาลัยฯ ไหนบ้าง หรือถ้าอยากจะเรียน จะยื่นคะแนนรอบไหนได้ พี่ก็รวบรวมมาให้หมดแล้วน้า >> คณะทันตแพทย์ เรียนกี่ปี เรียนเกี่ยวกับอะไร มีที่ไหนบ้าง สรุปมาให้ครบแล้ว !
บทความ แนะนำ
บทความ แนะนำ
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่อัปเดตอย่างเรียลไทม์ ได้ที่
Line : @smartmathpronews
FB : Pan SmartMathPro ติวคณิต By พี่ปั้น
IG : pan_smartmathpro
Twitter : @PanSmartMathPro
Tiktok : @pan_smartmathpro