วันนี้พี่จะมาพาทุกคนมารู้จักกับ 1 ในวิชาที่น้อง ๆ จะใช้ยื่นสมัครสอบเข้ามหาลัยฯ ก็คือวิชา A-Level นั่นเองงง
ซึ่งพี่จะมาสรุปให้ทุกคนได้ดูกันว่า A-Level คืออะไร ? A-Level มีวิชาอะไรบ้าง ? แนวข้อสอบหน้าตาเป็นยังไง ?
ใครต้องสอบ A-Level บ้าง ? เผื่อใครที่ยังไม่รู้จะได้เข้าใจและวางแผนอ่านหนังสือได้ตรงจุดมากขึ้น (น้อง ๆ คนที่รู้แล้วก็อ่านได้น้าเพราะนอกจากจะจับจุดได้มากขึ้นแล้ว พี่ยังมีคลิปติวและแจกคลังข้อสอบให้อีกด้วย > <)
สนใจหัวข้อไหน ... กดอ่านเลย
ToggleA-Level คืออะไร ?
A-Level คือ ข้อสอบวัดความรู้พื้นฐานทางวิชาการ ที่มีเนื้อหาตรงตามหลักสูตรของโรงเรียน (แต่อาจมีการพลิกแพลงบ้างเล็กน้อย) ซึ่งเน้นเรื่องการนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของน้อง ๆ นั่นเอง
โดยในปี 68 นี้วิชา A-Level สอบช่วงวันที่ 8 – 10 มี.ค. 68 และน้อง ๆ สามารถดูรายละเอียดกำหนดการ A-Level
เพิ่มเติมได้ในบทความ ปฏิทิน A-Level 68 เลยยยย
A-Level ใช้ทำอะไร ?
A Level เป็นการสอบเพื่อใช้คะแนนยื่นเข้ามหาลัยฯ ตามเกณฑ์ที่แต่ละสถาบันกำหนด สัดส่วนที่ใช้ก็จะแตกต่างกัน
เช่น คณะรัฐศาสตร์ บางมหาลัยฯ ใช้คะแนนคณิตเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก แต่บางมหาลัยฯ อาจจะใช้แค่ไทย-สังคม
ดังนั้นใครจะเลือกสอบวิชาไหน ต้องดูเกณฑ์คะแนนให้ดี ๆ น้า ว่าคณะ / มหาลัยฯ ที่อยากเข้าต้องสอบวิชาอะไรบ้าง
แล้วแบบนี้ Dek68 จำเป็นต้องสอบ A level ทุกคนมั้ย ? คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับว่าคณะที่น้อง ๆ ต้องการจะเข้า ใช้เกณฑ์คะแนนสอบอะไรบ้าง บางคณะใช้สัดส่วนคะแนน A-level เยอะ บางคณะใช้สัดส่วนคะแนน A-Level น้อย แต่พี่แนะนำว่าให้สอบ A-Level เผื่อไว้ด้วยดีกว่าน้า เผื่อน้อง ๆ ต้องการสมัครคณะอื่นเพิ่มเติม จะได้มีคะแนนนี้ไว้ยื่นสมัคร !!
A-Level สอบอะไรบ้าง ?
วิชาหลักของ A Level มีทั้งหมด 10 วิชา ได้แก่ คณิต 1, คณิต 2, วิทย์ประยุกต์, ฟิสิกส์, เคมี, ชีวะ, ภาษาไทย, สังคม, ภาษาอังกฤษ และภาษาต่างประเทศ (ฝรั่งเศส / เยอรมัน / ญี่ปุ่น / เกาหลี / จีน / ภาษาบาลี / สเปน)
น้อง ๆ จะลงสอบวิชาไหนก็ได้ ขึ้นอยู่กับเกณฑ์แต่ละคณะกำหนด หรือใครต้องการสอบทุกวิชาก็ทำได้เหมือนกันน้าา ยกเว้นวิชาเดียว คือ A-Level ภาษาต่างประเทศ เพราะวันและเวลาสอบทุกภาษาเป็นเวลาเดียวกัน เลยทำให้เลือกสอบได้แค่ภาษาเดียวเท่านั้น โดย A level มีค่าสมัครสอบ วิชาละ 100 บาท
A Level คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1
A-Level คณิต 1 ออกสอบเนื้อหาคณิตเพิ่มเติมและคณิตพื้นฐาน (น้อง ๆ สายศิลป์ก็สอบได้เหมือนกันน้า)
มีข้อสอบทั้งหมด 30 ข้อ แบ่งเป็นข้อสอบปรนัย 5 ตัวเลือกและระบายคำตอบที่เป็นตัวเลข ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาทีและคะแนนเต็มของ A Level คณิต 1 คือ 100 คะแนน
1. สาระจำนวนและพีชคณิต 15-17 ข้อ
– เซต, ตรรกศาสตร์, จำนวนจริงและพหุนาม, ฟังก์ชัน, ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม, ฟังก์ชันตรีโกณมิติ, จํานวนเชิงซ้อน, เมทริกซ์, ลําดับและอนุกรม
2. สาระการวัดและเรขาคณิต 3-5 ข้อ
– เรขาคณิตวิเคราะห์, เวกเตอร์ในสามมิติ
3. สาระสถิติและความน่าจะเป็น 6-8 ข้อ
– สถิติ, การแจกแจงความน่าจะเป็นเบื้องต้น, หลักการนับเบื้องต้น, ความน่าจะเป็น
4. สาระแคลคูลัส 2-4 ข้อ
– แคลคูลัสเบื้องต้น
A Level คณิตศาสตร์ประยุกต์ 2
A-Level คณิต 2 ออกสอบแค่เนื้อหาคณิตพื้นฐาน (น้อง ๆ สายวิทย์ก็สอบได้เหมือนกันน้า ถ้าคณะกำหนดให้ใช้คะแนนคณิต 2 ด้วย) มีข้อสอบทั้งหมด 30 ข้อ แบ่งเป็นข้อสอบปรนัย 5 ตัวเลือก และระบายคำตอบที่เป็นตัวเลข ใช้เวลาสอบ
1 ชั่วโมง 30 นาที และคะแนนเต็มของ A Level คณิต 2 คือ 100 คะแนน
- โครงสร้างข้อสอบ A Level คณิต 2
- สาระจำนวนและพีชคณิต 14-16 ข้อ
– เซต, ตรรกศาสตร์เบื้องต้น, เลขยกกำลัง, ฟังก์ชัน, ลําดับและอนุกรม, ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน - สาระสถิติและความน่าจะเป็น 14-16 ข้อ
– สถิติ, หลักการนับเบื้องต้น, ความน่าจะเป็น
- สาระจำนวนและพีชคณิต 14-16 ข้อ
1. สาระจำนวนและพีชคณิต 14-16 ข้อ
– เซต, ตรรกศาสตร์เบื้องต้น, เลขยกกำลัง, ฟังก์ชัน, ลําดับและอนุกรม, ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน
2. สาระสถิติและความน่าจะเป็น 14-16 ข้อ
– สถิติ, หลักการนับเบื้องต้น, ความน่าจะเป็น
A Level สังคมศึกษา
A-Level สังคม มีข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อ เป็นปรนัย 5 ตัวเลือกทั้งหมด ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที และคะแนนเต็มของ
A Level สังคมศึกษา คือ 100 คะแนน
1. สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม 10 ข้อ
– ความสำคัญ ศาสดา
หลักธรรมของพระพุทธศาสนา ศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่นและปฏิบัติตามหลักธรรมเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
– การปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนา หรือ ศาสนาที่ตนนับถือ
2. สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม 10 ข้อ
– หน้าที่ของการเป็นพลเมืองที่ดี มีค่านิยมที่ดีงาม การธำรงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย การดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสุข
– การเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน การยึดมั่น ศรัทธา และธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
3. สาระเศรษฐศาสตร์ 10 ข้อ
– บริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและ
คุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ
– สถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและความจำเป็นของการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจในสังคมโลก
4. สาระประวัติศาสตร์ 10 ข้อ
– เวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ หลักฐานและวิธีการทางประวัติศาสตร์ วิเคราะห์เหตุการณ์ต่าง ๆ
– พัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ในทวีปเอเซีย ยุโรป แอฟริกา และอเมริกา
– ชาติไทย การเมืองเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจ และความเป็นไทย
5. สาระภูมิศาสตร์ 10 ข้อ
– โลกทางกายภาพ และความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผลต่อกัน ใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหาวิเคราะห์สรุปข้อมูลตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนใช้ภูมิสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
– ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์วิถีการดำเนินชีวิต
มีจิตสำนึกและมีส่วนร่วม ในการจัดการทรัพยากรสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
A Level ภาษาไทย
A-Level ภาษาไทย มีข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อ เป็นปรนัย 5 ตัวเลือกทั้งหมด ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที และคะแนนเต็มของ A Level ภาษาไทย คือ 100 คะแนน
1. สาระการอ่าน
– การอ่านเพื่อเข้าใจเนื้อหา, การจับใจความ / การสรุปสาระสำคัญของข้อความ, การตีความ, การวิเคราะห์จุดประสงค์ / เจตนาของผู้เขียน, การวิเคราะห์ข้อคิด / แนวคิดที่ได้จากการอ่าน, การอนุมานจากเนื้อหาของข้อความที่อ่าน, ท่าที / น้ำเสียง / อารมณ์ความรู้สึก / ความคิดเห็นของผู้เขียน
2. สาระการเขียน
– การเรียงลำดับข้อความ, การเรียงความ, การพรรณา / บรรยาย / อธิบาย, การใช้เหตุผล,
การแสดงทรรศนะ, การโต้แย้ง, การโน้มน้าว
3. สาระการพูด การฟัง
– การวิเคราะห์จุดประสงค์ในการพูด, การใช้ข้อความถาม และตอบที่สัมพันธ์กัน, การตีความ / อนุมาน /
วิเคราะห์สาร / บุคลิกของผู้พูดหรือผู้ฟัง
4. สาระหลักการใช้ภาษา
– การสะกดคำ, การใช้คำตรงความหมาย, ประโยคกำกวม / ประโยคบกพร่อง, ประโยคสมบูรณ์, ระดับภาษา, การใช้สำนวนถูกต้องตามความหมาย, ชนิดของประโยคตามเจตนา, คำที่มีความหมายตรง / อุปมา, คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ, ราชาศัพท์
ใครที่อยากเตรียมตัวสอบ A-Level แต่ไม่มั่นใจว่าจะเก็บเนื้อหาบทไหนดี หรือใครอยากเสริมให้จุดที่ยังไม่เข้าใจ พี่ขอแนะนำคอร์สเรียนพิเศษสนาม A-Level ของ SmartMathPro ที่มีทั้ง A-Level คณิต 1,2 / A-Level ภาษาไทย / A-Level สังคม ให้เลยน้าา
โดยแต่ละคอร์สมีสอนเนื้อหาปูพื้นฐานอิงตาม Test Blueprint ปีล่าสุด (ใครที่พื้นฐานไม่แน่นก็สามารถเรียนได้) พร้อมพาตะลุยโจทย์แบบไต่ระดับ ตั้งแต่โจทย์ซ้อมมือไปจนถึงข้อสอบเก่าหรือโจทย์ที่ใกล้เคียงกับข้อสอบจริงเลย และพาตะลุยโจทย์หลายระดับจัดเต็ม พร้อมแจกเทคนิคในการทำข้อสอบที่จะช่วยให้น้อง ๆ ทำข้อสอบได้เร็วขึ้น แถมยังช่วยเพิ่มโอกาสในการอัปคะแนนให้อีกด้วย !!
แนะนำว่ายิ่งเริ่มเตรียมตัวสอบเร็วเท่าไร ก็จะยิ่งพร้อมมากกว่าใครน้า เพราะปีนี้สนามสอบ A-Level เลื่อนมาสอบไวขึ้น น้อง ๆ จะได้มีเวลาทบทวนเนื้อหาและฝึกทำโจทย์เสริมแกร่งได้นั่นเอง ที่สำคัญ ถ้าสมัครคอร์สตั้งแต่ตอนนี้พี่มี Unseen Mock Test ชุดพิเศษ 1 ชุด แถมฟรีไปให้ลองทำพร้อมสิทธิพิเศษประจำเดือนอีกมากมายด้วย ถ้าน้อง ๆ คนไหนสนใจคอร์สเตรียมสอบ A-Level สามารถ คลิก เข้ามาดูรายละเอียดได้เลย
A Level วิทยาศาสตร์ประยุกต์
A-Level วิทย์ประยุกต์ ออกสอบเนื้อหาพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ มีข้อสอบทั้งหมด 30 ข้อ แบ่งเป็นปรนัยและข้อสอบเชิงซ้อน คะแนนเต็ม 100 คะแนน ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที และคะแนนเต็มของ A Level วิทยาศาสตร์ประยุกต์ คือ 100 คะแนน
1. สาระวิทยาศาสตร์ชีวภาพ 7-9 ข้อ
– ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม, การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์, การรักษาดุลยภาพของร่างกายมนุษย์,
ระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์, การดำรงชีวิตของพืช, พันธุกรรมและวิวัฒนาการ
2. สาระวิทยาศาสตร์กายภาพ 14-16 ข้อ
– อะตอมและสมบัติของธาตุ, สารโคเวเลนต์, สารประกอบไอออนิก, สารประกอบไฮโดรคาร์บอน, พอลิเมอร์, ปฏิกิริยาเคมี, สารกัมมันตรังสี, การเคลื่อนที่และแรง, แรงในธรรมชาติ, พลังงานทดแทน, คลื่นกล, เสียง, แสงสี, คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
3. สาระวิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 6-8 ข้อ
– เอกภพและกาแล็กซี, ดาวฤกษ์, ระบบสุริยะ, เทคโนโลยีอวกาศ, โครงสร้างโลก, การแปรสัณฐานของแผ่นธรณี, ธรณีพิบัติภัย, การเกิดลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ, การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ, ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยา
หมายเหตุ : ข้อสอบเชิงซ้อน คือ ข้อสอบ 1 ข้อใหญ่ อาจจะเป็นตาราง กราฟ หรือแผนภูมิ และมีข้อย่อยอีก 3 ข้อ โดยคำตอบแต่ละข้อมีให้เลือกแค่ 2 ตัวเลือก คือ ใช่ หรือ ไม่ใช่ ถ้าน้อง ๆ ตอบถูกทั้งหมดก็จะได้คะแนนเต็ม แต่ถ้าตอบถูก 2 ข้อ
ก็จะได้คะแนนลดลงมาจนถึง 0 คะแนน
4. A Level ฟิสิกส์
A Level ฟิสิกส์
A-Level ฟิสิกส์ มีข้อสอบทั้งหมด 30 ข้อ แบ่งเป็นปรนัยและอัตนัย ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที และคะแนนเต็มของ A Level ฟิสิกส์ คือ 100 คะแนน
1. สาระกลศาสตร์ 8-10 ข้อ
– ธรรมชาติและพัฒนาการทางฟิสิกส์, การเคลื่อนที่แนวตรง, แรงและกฎการเคลื่อนที่, สมดุลกลของวัตถุ, งานและกฎการอนุรักษ์พลังงานกล, โมเมนตัมและการชน, การเคลื่อนที่แนวโค้ง, การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกส์อย่างง่าย
2. สาระคลื่นและแสง 5-7 ข้อ
– คลื่น, เสียง, แสง
3. สาระไฟฟ้า แม่เหล็ก และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า 6-8 ข้อ
– ไฟฟ้าสถิต, ไฟฟ้ากระแส, แม่เหล็กและไฟฟ้า, คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
4. สาระอุณหพลศาสตร์ และสมบัติเชิงกลของสาร 3-5 ข้อ
– ความร้อนและแก๊ส, ของแข็งและของไหล
5. สาระฟิสิกส์แผนใหม่ 3-5 ข้อ
– ฟิสิกส์อะตอม, ฟิสิกส์นิวเคลียร์และฟิสิกส์อนุภาค
A Level เคมี
A-Level เคมี มีข้อสอบทั้งหมด 35 ข้อ แบ่งเป็นปรนัยและอัตนัย ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที และคะแนนเต็มของ A Level เคมี คือ 100 คะแนน
1. สาระสมบัติของธาตุและสารประกอบ 15-17 ข้อ
– อะตอมและสมบัติของธาตุ, พันธะเคมี, แก๊ส, เคมีอินทรีย์, พอลิเมอร์
2. สาระสมการเคมีและการเปลี่ยนแปลงทางเคมี 15-17 ข้อ
– ปริมาณสัมพันธ์, อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี, สมดุลเคมี, กรด–เบส, เคมีไฟฟ้า
3. สาระทักษะในปฏิบัติการเคมีและการคำนวณปริมาณของสาร 2-4 ข้อ
– ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบัติการเคมี, โมล, สารละลาย
A Level ชีววิทยา
A-Level ชีววิทยา มีข้อสอบทั้งหมด 40 ข้อ แบ่งเป็นปรนัยและคำตอบเชิงซ้อน ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาทีและคะแนนเต็มของ A Level ชีววิทยา คือ 100 คะแนน
1. สาระความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อม 5-7 ข้อ
– ระบบนิเวศและไบโอม, ประชากร, ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและ
อนุกรมวิธาน
2. สาระหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต 6-8 ข้อ
– เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต, โครงสร้างและการทำงานของเซลล์
3. สาระเรื่องระบบและการทำงานต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ 12-14 ข้อ
– ระบบย่อยอาหาร, ระบบหมุนเวียนเลือด, ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน, ระบบขับถ่าย, ระบบหายใจ,
ระบบประสาทและการเคลื่อนที่, ระบบสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต, ระบบต่อมไร้ท่อ, พฤติกรรมของสัตว์
4. สาระโครงสร้างและการทำงานของส่วนต่าง ๆ ในพืช 6-8 ข้อ
– เนื้อเยื่อและโครงสร้างภายในของพืช, การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำของพืช และการลำเลียงของพืช,
การสังเคราะห์ด้วยแสงและสารอินทรีย์ในพืช, การสืบพันธุ์ของพืชดอก, การควบคุมการเจริญเติบโตและการตอบสนองของพืช
5. สาระพันธุศาสตร์และวิวัฒนาการ 6-8 ข้อ
– การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม, สมบัติของสารพันธุกรรม ความสัมพันธ์ระหว่างยีน การสังเคราะห์โปรตีน และลักษณะทางพันธุกรรม, การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม, เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ, วิวัฒนาการและพันธุศาสตร์ประชากร
A Level ภาษาอังกฤษ
A-Level ภาษาอังกฤษ มีข้อสอบทั้งหมด 80 ข้อ เป็นปรนัย 4 ตัวเลือกทั้งหมด ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที และคะแนนเต็มของ A Level ภาษาอังกฤษ คือ 100 คะแนน
1. สาระทักษะการฟังและการพูด (Listening and Speaking Skills) 20 ข้อ
– เติมบทสนทนาแบบสั้น (Short conversation), เติมบทสนทนาแบบยาว (Long conversation)
2. สาระทักษะการอ่าน (Reading Skill) 40 ข้อ
– โฆษณา (Advertisement), บทวิจารณ์สินค้าหรือบริการ (Product or service review), รายงานข่าว (News report), ภาพประกอบบทความ (Visual) เช่น กราฟ ตาราง แผนผัง หรือ แผนภูมิ, บทความทั่วไปที่มีจำนวนคำประมาณ 500-600 คำ
3. สาระทักษะการเขียน (Writing Skill) 20 ข้อ
– เติมบทความให้สมบูรณ์ (Text completion), เรียงประโยคให้เป็นย่อหน้าที่สมบูรณ์ (Paragraph organization)
A Level ภาษาฝรั่งเศส
A-Level ภาษาฝรั่งเศส มีข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อ เป็นปรนัย 4 ตัวเลือกทั้งหมด ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที และคะแนนเต็มของ A Level ภาษาฝรั่งเศส คือ 100 คะแนน
สาระสมรรถนะการใช้ภาษาฝรั่งเศสในการสื่อสาร 50 ข้อ โดยแบ่งเป็น
1. สาระทักษะการสื่อสารทั่วไป
– การใช้คำศัพท์และสำนวน, การสื่อสารในสถานการณ์ชีวิตประจำวัน
2. สาระการใช้ไวยากรณ์พื้นฐาน
3. สาระความสามารถในการอ่าน
4. สาระความสามารถในการเขียน
A Level ภาษาเยอรมัน
A-Level ภาษาเยอรมัน มีข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อ เป็นปรนัย 4 ตัวเลือกทั้งหมด ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที และคะแนนเต็มของ A Level ภาษาเยอรมัน คือ 100 คะแนน
สาระสมรรถนะการใช้ภาษาเยอรมันในการสื่อสาร 50 ข้อ โดยแบ่งเป็น
1. ความสามารถในการเขียน
2. การใช้คำศัพท์และสำนวนภาษาเยอรมันในสถานการณ์ชีวิตประจำวัน
3. การอ่านตัวบทภาษาเยอรมัน
A Level ภาษาญี่ปุ่น
A-Level ภาษาญี่ปุ่น มีข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อ เป็นปรนัย 4 ตัวเลือกทั้งหมด ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที และคะแนนเต็มของ A Level ภาษาญี่ปุ่น คือ 100 คะแนน
สาระสมรรถนะการใช้ภาษาญี่ปุ่นในการสื่อสารในสถานการณ์ชีวิตประจำวัน 50 ข้อ โดยแบ่งเป็น
1. ความสามารถในการใช้ไวยากรณ์พื้นฐาน
2. สาระความสามารถในการสื่อสาร
3. สาระความสามารถในการเขียน
4. สาระความสามารถในการอ่าน
A Level ภาษาเกาหลี
A-Level ภาษาเกาหลี มีข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อ เป็นปรนัย 4 ตัวเลือกทั้งหมด ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที และคะแนนเต็มของ A Level ภาษาเกาหลี คือ 100 คะแนน
สาระสมรรถนะการใช้ภาษาเกาหลีในการสื่อสาร 50 ข้อ โดยแบ่งเป็น
1. ความสามารถในการใช้คำศัพท์และสำนวนในชีวิตประจำวัน
2. ความสามารถในการอ่านและสังคมวัฒนธรรม
3. สาระความสามารถในการใช้ไวยากรณ์
A Level ภาษาจีน
A-Level ภาษาจีน มีข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อ เป็นปรนัย 4 ตัวเลือกทั้งหมด ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที และคะแนนเต็มของ A Level ภาษาจีน คือ 100 คะแนน
สาระสมรรถนะการใช้ภาษาจีนในการสื่อสาร 50 ข้อ โดยแบ่งเป็น
1. ความสามารถในการใช้คำศัพท์และสำนวนภาษาจีนในชีวิตประจำวัน
2. ความสามารถในการอ่านและสังคมวัฒนธรรม
3. ความสามารถในการใช้ไวยากรณ์
A Level ภาษาบาลี
A-Level ภาษาบาลี มีข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อ เป็นปรนัย 4 ตัวเลือกทั้งหมด ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที และคะแนนเต็มของ A Level ภาษาบาลี คือ 100 คะแนน
สาระสมรรถนะการใช้ภาษาบาลีในการสื่อสารในสถานการณ์ชีวิตประจำวัน 50 ข้อ โดยแบ่งเป็น
1. ความสามารถในการใช้คำศัพท์และสำนวนภาษา
2. ความสามารถในการอ่าน
3. ความสามารถในการใช้ไวยากรณ์
A Level ภาษาสเปน
A-Level ภาษาสเปน มีข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อ เป็นปรนัย 4 ตัวเลือกทั้งหมด ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที และคะแนนเต็มของ A Level ภาษาสเปน คือ 100 คะแนน
สาระสมรรถนะการใช้ภาษาในการสื่อสาร 50 ข้อ โดยแบ่งเป็น
1. การใช้คำศัพท์และสำนวน และการสื่อสารในสถานการณ์ชีวิตประจำวัน
2. ความสามารถในการเขียน และใช้ไวยากรณ์
3. ความสามารถในการอ่าน และสังคมวัฒนธรรม
A-Level ยื่นคะแนนสอบรอบไหนได้บ้าง ?
รอบ 2 Quota : รอบสำหรับนักเรียนในโครงการพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นโครงการด้านการเรียน ด้านกีฬา ด้านดนตรี ด้านศิลปะ ฯลฯ หรือคนที่ภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ตามเกณฑ์มหาลัยฯ กำหนด ซึ่งรอบนี้จะพิเศษหน่อยน้า เพราะบางคณะใช้ทั้งคะแนนสอบกลาง หรืออาจจะเลือกใช้ข้อสอบของมหาลัยฯ เอง
รอบ 3 Admission : รอบรับตรงร่วมกัน พิจารณาคะแนนสอบล้วน ๆ เลย ทั้ง A-Level, TGAT TPAT เปิดรับสมัครพร้อมกันทั้งประเทศ ซึ่งเป็นรอบที่ใช้คะแนนสอบเยอะมากที่สุด และมีจำนวนรับสมัครเยอะที่สุดเช่นกัน ใครจะสอบเข้ารอบนี้ ต้องเตรียมตัวสอบให้ดี ๆ นะ !!
รอบ 4 Direct Admission : รอบรับตรงอิสระ ซึ่งถือเป็นรอบเก็บตกสำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่ได้มหาลัยฯ ที่ถูกใจ หรือยังไม่มีที่เรียน โดยคะแนนที่ใช้ก็จะเป็น TGAT / TPAT หรือ A-Level ตามที่ทุกคนเลยสอบเลยย แต่รอบนี้จะเปิดรับน้อยหน่อยน้า รวมถึงอาจจะไม่ได้เปิดรับทุกมหาลัยฯ ทุกคณะด้วย ถ้าใครจะยื่นรอบนี้ต้องติดตามข่าวสารกันดี ๆ เลยว่าคณะที่เราอยากเข้าเปิดรับรอบนี้รึเปล่า
หมายเหตุ : คะแนน A Level ไม่สามารถยื่นรอบ 1 Portfolio ได้ เพราะว่ากำหนดการสอบ A-Level อยู่ช่วงเดือนมีนาคม แต่การสมัครรอบ 1 Portfolio จะยืนยันสิทธิ์ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งแต่ละมหาลัยฯ จะสามารถใช้ได้แค่คะแนน
TGAT /TPAT หรืออื่น ๆ ตามที่มหาลัยฯ กำหนดขึ้นมาเท่านั้น (เด็ก ๆ ที่จะสมัครรอบ 1 Portfolio อย่าลืมเช็กเกณฑ์คะแนนกันก่อนน้าา)
ตัวอย่างแนวข้อสอบ A-Level
บริษัทผลิตเครื่องดื่มแห่งหนึ่งวางแผนที่จะลดกำลังการผลิตสินค้าในแต่ละเดือน โดยจำนวนขวดของเครื่องดื่มที่จะผลิตในเดือนถัด ๆ ไป จะลดลงร้อยละ 3 ของจำนวนขวดของเครื่องดื่มที่ผลิตในเดือนก่อนหน้า ถ้าเดือนมกราคม 2565 บริษัทมียอดการผลิตเครื่องดื่มจำนวน 500,000 ขวด แล้วเดือนพฤศจิกายน 2565 บริษัทนี้จะมียอดการผลิตเครื่องดื่มกี่ขวด
ในการประชุมครั้งหนึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุม 185 คน และต้องมีการลงมติสองเรื่องจากการลงมติ พบว่า ในการลงมติแต่ละเรื่อง ผู้ที่เข้าร่วมประชุมทุกคนได้ลงคะแนน ว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นโดยมีผู้ลงคะแนนว่าเห็นชอบในเรื่องแรก 145 คน และมีผู้ลงคะแนนว่าเห็นชอบในเรื่องที่สอง 100 คน
ถ้าจำนวนผู้ลงคะแนนว่าเห็นชอบทั้งสองเรื่องเป็นสามเท่าของจำนวนผู้ลงคะแนนว่าไม่เห็นชอบทั้งสองเรื่อง แล้วมีผู้ลงคะแนนว่าเห็นชอบทั้งสองเรื่องกี่คน
1.15 คน
2. 30 คน
3. 45 คน
4. 60 คน
5. 90 คน
ตอบ 5. 90 คน
หลายคนอาจเข้าใจว่าคณิต 1, คณิต 2 ไม่ได้ต่างกันมากเนื่องจากเป็นวิชาคณิตประยุกต์เหมือนกัน แต่ที่จริงแล้ว 2 วิชานี้มีความต่างกันอยู่น้า ไม่ว่าจะเป็นบทที่ออกสอบหรือจำนวนข้อ รวมไปถึงความยากง่าย เช่น ข้อสอบคณิต 1 จะมีความ
ซับซ้อน ต่างจากข้อสอบคณิต 2 ที่จะถามแบบตรง ๆ เลย
ซึ่งถ้าใครอยากรู้เกี่ยวกับข้อสอบ 2 วิชานี้แบบเจาะลึกว่ามันต่างกันแค่ไหน ? และเวลาที่เหลือไม่กี่วันควรจะเก็บบทไหนเป็นพิเศษ เพื่อลดเวลาอ่านหนังสือและเก็บคะแนนให้ได้เยอะ ๆ คลิก อ่านบทความนี้ได้เลยย
รถคันหนึ่งเคลื่อนที่ในแนวตรงจากหยุดนิ่ง โดยทุกๆ 2 วินาที รถคันนี้มีความเร็วเพิ่มขึ้น 3.0 เมตรต่อวินาที ตลอดช่วง 10 วินาทีแรก หลังจากนั้นรถคันนี้เคลื่อนที่ต่อไปด้วยความเร็วคงตัว
ในช่วง 10 วินาทีแรก รถคันนี้มีขนาดความเร่งเฉลี่ยเท่าใด และในช่วงที่รถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงตัว รถจะต้องใช้เวลาเท่าใดจึงจะเคลื่อนที่ได้ระยะทาง 75 เมตร ในช่วงความเร็วคงตัวนี้
1. ขนาดความเร่งเฉลี่ย 1.5 เมตรต่อวินาที² เวลาที่ต้องใช้ในการเคลื่อนที่ 5.0 วินาที
2. ขนาดความเร่งเฉลี่ย 1.5 เมตรต่อวินาที² เวลาที่ต้องใช้ในการเคลื่อนที่ 10.0 วินาที
3. ขนาดความเร่งเฉลี่ย 3.0 เมตรต่อวินาที² เวลาที่ต้องใช้ในการเคลื่อนที่ 2.5 วินาที
4. ขนาดความเร่งเฉลี่ย 3.0 เมตรต่อวินาที² เวลาที่ต้องใช้ในการเคลื่อนที่ 5.0 วินาที
5. ขนาดความเร่งเฉลี่ย 3.0 เมตรต่อวินาที² เวลาที่ต้องใช้ในการเคลื่อนที่ 15.0 วินาที
ตอบ 1. ขนาดความเร่งเฉลี่ย 1.5 เมตรต่อวินาที² เวลาที่ต้องใช้ในการเคลื่อนที่ 5.0 วินาที
ตอบ 80.4 เมตร
พิจารณาข้อความต่อไปนี้
ก. จะละลายได้ดีขึ้นในสารละลายที่มีสมบัติเป็นกรด
ข. ปฏิกิริยาไปข้างหน้าของการเปลี่ยน เป็น เกิดได้ดี
ค. ละลายในน้ำได้ดีกว่า
ข้อความใดถูกต้อง
1. ก เท่านั้น
2. ข เท่านั้น
3. ก และ ข
4. ก และ ค
5. ข และ ค
ตอบ 3. ก และ ข
การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของโรคชนิดหนึ่งในครอบครัวหนึ่ง เป็นดังนี้
จากข้อมูล ข้อใดถูกต้อง
1. คนที่ 2 ในรุ่น II ไม่เป็นพาหะของโรค
2. คนที่เป็นโรคเกิดจากการมีแอลลีลเด่น 1 แอลลีล
3. การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของโรคนี้เป็นการถ่ายทอดผ่านโครโมโซมเพศ
4. การที่คนที่ 1 ในรุ่น IV เป็นโรค แสดงว่าคนที่ 5 และ 6 ในรุ่น III เป็นพาหะของโรค
5. ถ้าคนที่ 4 ในรุ่น III มีจีโนไทป์แบบฮอมอไซกัส พ่อและแม่ต้องมีจีโนไทป์แบบฮอมอไซกัสทั้งคู่
ตอบ 4. การที่คนที่ 1 ในรุ่น IV เป็นโรค แสดงว่าคนที่ 5 และ 6 ในรุ่น III เป็นพาหะของโรค
หากใน พ.ศ. 2566 รัฐบาลของประเทศ A ได้มีการเปิดเผยผลิตภัณฑ์ประชาชาติ เท่ากับ 1,200 ล้านบาท และในปีเดียวกัน มีคนต่างสัญชาติจากประเทศ B เข้ามาลงทุนด้านอุตสาหกรรมการเกษตรและปศุสัตว์ในประเทศ A มูลค่ารวม 230 ล้านบาท และลงทุนด้านอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวและการบริการในประเทศ A มูลค่ารวม 150 ล้านบาท ขณะเดียวกันคนสัญชาติประเทศ A ไปลงทุนในประเทศอื่น ๆ ก่อให้เกิดผลผลิตคิดเป็นมูลค่า 150 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เบื้องต้น ของประเทศ A จะมีมูลค่าเท่าใด
1. 1,730 ล้านบาท
2. 1,430 ล้านบาท
3. 1,270 ล้านบาท
4. 970 ล้านบาท
5. 670 ล้านบาท
ตอบ 2. 1,430 ล้านบาท
ข้อใดมีคำที่เขียนผิด
1. ภารกิจ สาธารณประโยชน์
2. ผรุสวาท วิพากย์วิจารณ์
3. โลกาภิวัตน์ อัธยาศัย
4. เจตจำนง อานิสงส์
5. พิสดาร วิกฤตการณ์
ตอบ 2. ผรุสวาท วิพากย์วิจารณ์
Directions: Select the best option to complete the paragraph below.
What if you had one shot one opportunity — to seize everything you ever wanted in one grueling nine-hour exam? Would you capture it, or ____(1)____ and start crying? That’s the situation millions of ____(2)____ face every June with the dreaded Gao Kao, a two-day test said to be the hardest in the world. The comprehensive exam____(3)____ everything the students have ever learned in order to match them to a college and chart the rest of their lives. It’s seen in Chinese society____(4)____ an all-important step to attending a prestigious university and landing a high-paying job afterward. In some cases, it can even be a stepping stone to____(5)____ one’s social status
(1)
1. blow your stack
2. get into a fight
3. act high and mighty
4. curl up into a tiny ball
(1) ตอบ 4. curl up into a tiny ball
Actuellement, de plus en plus de gens suivent des cours à distance pour __________ un diplôme ou une meilleure qualification professionnelle.
1. gagner
2. atteindre
3. obtenir
4. étudier
ตอบ 3. obtenir
Meine Freundin hat sich für das Architekturstudium entschieden, ____________________.
1. denn sie haben schon als Kind gern gebaut
2. weil sie bei der Arbeit kreativ sein kann
3. wenn sie viel Geld verdienen können
4. dass sie lange überlegt hat
ตอบ 2. weil sie bei der Arbeit kreativ sein kann
ตอบ 2.
다음을 읽고 알맞은 대답을 고르십시오.
ตอบ
护士量了我的________后说,我发高烧了。
1. 体温
2. 气温
3. 温度
4. 温暖
ตอบ 1. 体温
ข้อใดไม่มีนิบาตแสดงคำถาม
ตอบ
Mi marido se encuentra muy mal. Después de una operación de corazón _____ hasta ahora.
1. no se despierta
2. no se despertó
3. no se ha despertado
4. no va a despertarse
ตอบ
A-Level ควรได้คะแนนเท่าไร ?
น้อง ๆ Dek68 หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วควรจะเก็บคะแนน A Level ให้ได้เท่าไร ถึงจะเซฟที่สุด ไม่หลุดอันดับตอนยื่นคะแนน จริง ๆ มันขึ้นอยู่กับความยากง่ายของข้อสอบ A Level ในปีนั้น ๆ เลย แต่ก็จะมีเหตุผลอื่นด้วย เช่น จำนวนคนสอบ เกณฑ์คะแนนขั้นต่ำ หรือ คะแนนสูงต่ำของคณะ
แต่ถ้าใครอยากรู้คะแนนที่ควรเก็บคร่าว ๆ เพื่อที่จะได้วางแพลนเตรียมสอบหรืออ่านหนังสือถูก พี่ก็ได้สรุปคะแนนที่ควรเก็บมาให้แล้ว เป็นการคาดคะแนนจากคะแนนปี 67 น้าา แต่ละวิชาเป็นไงบ้าง เช็กเลยย
นอกจากการคาดการณ์คะแนน A-Level แต่ละวิชาในปี 68 ที่พี่สรุปมาให้ในข้างต้น พี่ก็มีวิเคราะห์คะแนน A-Level แบบเจาะลึกด้วยน้า ไม่ว่าจะเป็นการกระจายตัวของคะแนน A-Level ในแต่ะวิชา การคาดคะเนความเฟ้อ – ฝืดของคะแนนในคณะต่าง ๆ ของรอบ 3 เป็นต้น สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ วิเคราะห์คะแนน A-Level 67 เลยน้าา
จบแล้วสำหรับบทความเกี่ยวกับการสอบ A-Level มีทั้งโครงสร้างข้อสอบและรายละเอียดอื่น ๆ แบบจัดเต็ม พี่หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังเตรียมสอบ A-Level 68 กันอยู่น้า หรือถ้าใครยังไม่เริ่มเตรียมตัว พี่ก็แนะนำว่าอ่านบทความนี้จบแล้วให้เริ่มทยอยเก็บเนื้อหาและฝึกทำโจทย์ ซึ่งพี่ก็มีข้อสอบเก่าและแบบฝึกหัดให้ดาวน์โหลดฟรี
ด้วยน้าา แวะเข้าไปดูกันได้เลยยย
บทความ แนะนำ
บทความ แนะนำ
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่อัปเดตอย่างเรียลไทม์ ได้ที่
Line : @smartmathpronews
FB : Pan SmartMathPro ติวคณิต By พี่ปั้น
IG : pan_smartmathpro
Twitter : @PanSmartMathPro
Tiktok : @pan_smartmathpro