สรุปรวม 12 Tenses

Tense เป็น 1 ในบทเรียนภาษาอังกฤษที่น้อง ๆ น่าจะคุ้นเคยกันดี เพราะเราได้เรียนเรื่องนี้กันบ่อยมากตั้งแต่ประถมยันมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม เนื้อหา Tense ก็ยังเป็นเรื่องที่น้อง ๆ หลายคนยังไม่เข้าใจอยู่

ซึ่งวันนี้พี่จะขอมาสรุปโครงสร้างและหลักการใช้ 12 Tenses ให้น้อง ๆ อ่านกันแบบเข้าใจง่ายที่สุดพร้อมนำไปใช้ต่อ
ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันเลยยย

Tense คืออะไร ? มีอะไรบ้าง ?

Tense ในภาษาอังกฤษ คือ รูปแบบของคำกริยาที่ใช้เพื่อแสดง “ช่วงเวลา” และ “ลักษณะของเหตุการณ์”
ที่เกิดขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลาหลัก ๆ คือ

  • Past (อดีต) : ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต
  • Present (ปัจจุบัน) : ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
  • Future (อนาคต) : ใช้กับเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต

แต่ละช่วงเวลาก็จะแบ่งย่อยออกไปอีก 4 รูปแบบตามลักษณะของเหตุการณ์ ได้แก่

  • Simple (ธรรมดา) : ใช้กับเหตุการณ์ทั่วไป ที่ไม่ได้เน้นว่าเกิดขึ้นนานแค่ไหน
  • Continuous (ต่อเนื่อง) : ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่
  • Perfect (สมบูรณ์) : ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วและจบลงแล้ว
  • Perfect Continuous (สมบูรณ์ต่อเนื่อง) : ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วและยังดำเนินอยู่

เมื่อนำช่วงเวลาและลักษณะของเหตุการณ์ทั้งหมดมารวมกัน ทำให้ Tense ในภาษาอังกฤษมีทั้งหมด 12 Tenses ด้วยกัน และน้อง ๆ จะได้เห็นการใช้ Tense เป็นพื้นฐานของประโยคภาษาอังกฤษทั้งในชีวิตประจำวัน รวมถึงในข้อสอบสนามต่าง ๆ เช่น สนาม A-Level ภาษาอังกฤษ เป็นต้น 

ซึ่งโครงสร้างและวิธีการใช้แต่ละ Tense จะเป็นอย่างไร ลองดูในหัวข้อถัดไปได้เลย

12 Tenses มีโครงสร้างอะไรบ้าง ?

Present tense (ปัจจุบันกาล)

Present simple

  • ใช้กับเหตุการณ์ทั่วไป กิจวัตร หรือข้อเท็จจริง
  • โครงสร้าง : Subject + Verb ช่อง 1 (s, es)

Present continuous

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ ณ ขณะนั้น
  • โครงสร้าง : Subject + is / am / are + Verb-ing

Present perfect

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต แต่ยังส่งผลถึงปัจจุบัน
  • โครงสร้าง : Subject + has / have + Verb ช่อง 3

Present perfect continuous

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและยังดำเนินต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
  • โครงสร้าง : Subject + has / have been + Verb-ing

ตัวอย่างประโยคใน Present tense

  • She studies English every day. (เธอเรียนภาษาอังกฤษทุกวัน)
  • I have finished all my assignments. (ฉันทำการบ้านเสร็จหมดแล้ว)

Past tense (อดีตกาล)

Past simple

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบไปแล้ว
  • โครงสร้าง : Subject + Verb ช่อง 2

Past continuous

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต
  • โครงสร้าง : Subject + was / were + Verb-ing

Past perfect

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีต
  • โครงสร้าง : Subject + had + Verb ช่อง 3

Past perfect continuous

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีต
  • โครงสร้าง : Subject + had been + Verb-ing

ตัวอย่างประโยคใน Past tense

  • They visited Paris last year. (พวกเขาไปเที่ยวปารีสเมื่อปีที่แล้ว)
  • She was cooking when I arrived. (เธอกำลังทำอาหารตอนที่ฉันมาถึง)

Future tense (อนาคตกาล)

Future simple

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
  • โครงสร้าง : Subject + will + Verb infinitive

Future continuous

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่คาดว่าจะกำลังดำเนินอยู่ในอนาคต ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
  • โครงสร้าง : Subject + will be + Verb-ing

Future perfect

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นและจบลงก่อนเวลาหนึ่งในอนาคต
  • โครงสร้าง : Subject + will have + Verb ช่อง 3

Future perfect continuous

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ดำเนินต่อเนื่อง และจบก่อนเวลาหนึ่งในอนาคต
  • โครงสร้าง : Subject + will have been + Verb-ing

ตัวอย่างประโยคใน Future tense

  • She will travel to Japan next month. (เธอจะเดินทางไปญี่ปุ่นเดือนหน้า)
  • By next year, she will have graduated. (ภายในปีหน้า เธอจะเรียนจบแล้ว)

ซึ่งจากโครงสร้างของทั้ง 12 Tenses ในข้างต้น ก็สามารถเขียนสรุปเป็นภาพเดียวได้ตามข้างล่างนี้เลยยย

รวมโครงสร้าง 12 Tenses

และนี่ก็คือภาพรวมของทั้ง 12 Tenses ที่พี่สรุปมาให้ทุกคนอ่านกันน้า พี่แนะนำว่าถ้าใครอยากเข้าใจและจำทั้ง 12 Tenses ได้แม่น ก็ให้ลองฝึกอ่านภาษาอังกฤษบ่อย ๆ เช่น อ่านจากข่าวภาษาอังกฤษ, นิยายภาษาอังกฤษ ซึ่งจะทำให้
ทุกคนเห็นลักษณะการใช้ Tense ในสถานการณ์หรือบริบทจริงมากขึ้น

นอกจากนี้ Tense ยังเป็นพื้นฐานในการเรียนภาษาอังกฤษด้วย โดยน้อง ๆ จะได้เห็นการใช้ Tense ในข้อสอบสนาม
A-Level ภาษาอังกฤษ ที่อาจช่วยให้ทุกคนสามารถแยกได้ว่าข้อสอบกำลังพูดถึงอดีต, ปัจจุบัน หรืออนาคตอยู่ และอาจเป็นตัวช่วยในการหาคำตอบในข้อนั้น ๆ ด้วยนั่นเอง

ซึ่งถ้าใครอยากรู้ทริคในการทำข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษ รวมถึง A-Level วิชาอื่น ๆ พี่ขอแนะนำคอร์สเรียนพิเศษสนาม A-Level ของ SmartMathPro ที่มีทั้ง A-Level คณิต 1,2 / A-Level ภาษาอังกฤษ / A-Level ฟิสิกส์ / A-Level ภาษาไทย / A-Level สังคม เลยน้าา

โดยสำหรับใครที่ไม่มีพื้นฐานก็สามารถเรียนได้ เพราะพี่สอนตั้งแต่ปูพื้นฐาน ไปจนถึงพาทำโจทย์ตั้งแต่ระดับง่ายไปจนถึงความยากใกล้เคียงกับข้อสอบจริงเลย แถมมีเทคนิคในการทำข้อสอบอีกเพียบที่จะช่วยให้น้อง ๆ ทำข้อสอบได้เร็วขึ้น > <

และสำหรับใครที่ยังไม่เริ่ม เริ่มติวตอนนี้ก็ยังทันน้าา แอบกระซิบว่าถ้าสมัครคอร์สตั้งแต่ตอนนี้พี่มี Unseen Mock Test ชุดพิเศษ 1 ชุด แถมฟรีไปให้ลองทำพร้อมสิทธิพิเศษประจำเดือนอีกมากมายด้วย ถ้าน้อง ๆ คนไหนสนใจคอร์สเตรียมสอบ A-Level สามารถ คลิก เข้ามาดูรายละเอียดได้เลยย

บทความ แนะนำ

บทความ แนะนำ

เทคนิคเตรียมสอบ-A-Level-ภาษาอังกฤษ
Dek68 เตรียมสอบ A-Level อังกฤษ 68 ยังไง ? ทำข้อสอบยังไงให้ทัน ?
Idioms & Everyday expressions ใช้ในชีวิตประจำวัน
รวม 50 Idioms และ Everyday expressions ใช้บ่อย พร้อมคำแปล
วัน เดือน ปี ภาษาอังกฤษ ตัวเต็มและตัวย่อ เขียนอย่างไร
รวมวิธีเขียน วัน เดือน ปี ภาษาอังกฤษ ตัวย่อและตัวเต็มให้ถูกต้อง
ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ยังไงดี ? รวมเทคนิคฝึกภาษาอังกฤษครบทุกสกิล ฟัง พูด อ่าน เขียน
รวม 12 เทคนิคฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ครบทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน
รวมเว็บข่าวภาษาอังกฤษ
รวม 10 เว็บข่าวภาษาอังกฤษ และแจกเทคนิคอ่านข่าว อัปสกิลภาษาให้ปัง!
A-Level 68 (เอเลเวล) คืออะไร
A-Level 68 คืออะไร? มีวิชาอะไรบ้าง? สรุปพร้อมคลิปติวโค้งสุดท้าย

สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่อัปเดตอย่างเรียลไทม์ ได้ที่

Line : @smartmathpronews

FB : Pan SmartMathPro ติวคณิต By พี่ปั้น 

IG : pan_smartmathpro

X : @PanSmartMathPro

Tiktok : @pan_smartmathpro

Lemon8 : @pan_smartmathpro

Share