น้อง ๆ เคยมีวันที่รู้สึกไม่อยากอ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียน หรือฝึกทำโจทย์กันบ้างหรือเปล่า ซึ่งถ้าเป็นครั้งคราว ไม่นานก็ลุกขึ้นมาทบทวนบทเรียนได้เหมือนเดิม อาจตีความไปได้ว่าเป็นความรู้สึกที่แค่อยากพักชั่วคราว แต่ถ้าความรู้สึกเบื่อหน่ายมันอยู่นานกว่าที่คิดล่ะ ? บางทีน้อง ๆ อาจจะกำลัง “หมดไฟ” ก็ได้นะ !
ซึ่งความรู้สึกหมดไฟ ไม่อยากอ่านหนังสือ อาจส่งผลกระทบกับร่างกายและจิตใจจนทำให้เราไม่สามารถกลับมาอ่านหนังสือได้อย่างเต็มที่เหมือนช่วงแรก ๆ ที่เริ่มอ่านได้อีก เพื่อให้ทุกคนที่กำลังรู้สึกแบบนี้อยู่ ได้กลับมามีไฟอ่านหนังสือ วันนี้พี่ก็จะมาแจก 7 เทคนิคสำหรับเติมไฟในการอ่านหนังสือ ให้ทุกคนกลับมามีไฟอีกครั้ง !! จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันเลย
สนใจหัวข้อไหน ... กดอ่านเลย
Toggleอาการหมดไฟเกิดจากอะไร ?
หมดไฟ (Burnout) คือ อาการที่เกิดจากความเครียดสะสมเป็นเวลานานและไม่สามารถจัดการกับความเครียดนั้นได้ ทำให้ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ เช่น รู้สึกอ่อนล้า เหนื่อย เบื่อหน่าย ท้อแท้ วิตกกังวล นอนไม่หลับ หรือรู้สึกหงุดหงิดง่าย เป็นต้น จนไม่อยากทำในสิ่งที่เคยทำ หรือทำได้ไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน
หมดไฟอ่านหนังสือ ทำยังไงดี ?
น้อง ๆ อาจจะเคยรู้สึกว่าตัวเองสามารถอ่านหนังสือได้นาน หรืออ่านแล้วเข้าใจได้มากกว่านี้ แต่พอเกิดอาการหมดไฟ ก็ทำให้อ่านได้น้อยลง หรือสิ่งที่อ่านไปไม่เข้าใจเลย T_T ใครที่กำลังเป็นแบบนี้อยู่ ลองมาดู 7 วิธีเติมไฟในการอ่านหนังสือที่พี่รวบรวมมาให้ทุกคนตามนี้ดูก่อนน้า
1. ปรับความคิดใหม่
อย่างที่พี่บอกไปเลยว่าอาการหมดไฟเกิดจากความเครียดที่สะสมมากขึ้น ให้น้อง ๆ ลองมองย้อนกลับไปว่าเคยกดดันตัวเอง, เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นมากเกินไปหรือเปล่า ถ้าเคยพี่แนะนำให้ลองเริ่มจากปรับความคิดก่อนน้า ลองโฟกัสแค่ตัวเองแล้วทำให้ดีที่สุด ที่สำคัญคืออย่าโทษตัวเอง หรือคิดว่าตัวเองทำได้ไม่ดีพอ เพราะแค่น้อง ๆ พยายามอ่านหนังสืออย่างเต็มที่นั่นก็เก่งมาก ๆ แล้ว
2. หาแรงจูงใจ
การหาแรงบันดาลใจ มีบุคคลที่ยึดเป็นแบบอย่าง จะช่วยให้น้อง ๆ มีไฟในการพัฒนาตัวเอง เพื่อให้ประสบความสำเร็จเหมือนกับคนคนนั้น ซึ่งสามารถหาได้จากคนที่เรายึดเป็นไอดอลของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ศิลปิน หรือคนรอบตัว
3. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
บางครั้งความรู้สึกเครียดก็อาจมาจากที่เราไม่มีเป้าหมายก็ได้ เช่น น้อง ๆ อาจรู้สึกว่าการอ่านหนังสือของตัวเองนั้นไม่มีเป้าหมาย ดังนั้นพี่แนะนำว่าเราอาจจะลองเริ่มจากตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ดูก่อน พอทำได้แล้ว ค่อยตั้งเป้าหมายใหม่เรื่อย ๆ เมื่อทำสำเร็จแล้ว น้องจะได้มีกำลังใจทำเป้าหมายอื่น ๆ ต่อ ซึ่งวิธีนี้อาจจะช่วยให้เรากลับมามีไฟอีกครั้งก็ได้ !!
4. เปลี่ยนบรรยากาศการอ่านหนังสือ
น้อง ๆ หลายคนอาจเคยอ่านหนังสือแต่สถานที่เดิม ๆ เช่น ห้องสมุด หรือในบ้านของตัวเอง ซึ่งบางครั้งมันทำให้เกิดความจำเจ เบื่อหน่าย จนทำให้ไม่อยากลุกมาอ่านหนังสือ
ดังนั้นการเปลี่ยนบรรยากาศให้สภาพแวดล้อมเอื้อต่อการอ่านหนังสือ เช่น ลองจัดโต๊ะอ่านหนังสือใหม่, เปิดเพลงคลอเบา ๆ ระหว่างอ่านหนังสือ, ลองย้ายจากในห้องมานั่งอ่านในสวนหน้าบ้าน หรือจะลองออกไปอ่านหนังสือนอกสถานที่เช่น ร้านกาแฟ หรืออ่านกับเพื่อนดูก็ได้น้า
5. แชร์เรื่องราวต่าง ๆ กับเพื่อนหรือคนรอบตัวเพื่อลดความเครียดลง
ปัญหาความเครียดของน้อง ๆ ถ้าได้ระบายออกมาให้ใครสักคนฟัง อาจจะช่วยให้รู้สึกดีได้น้าา เป็นเพื่อนสนิท หรือคนรอบตัว, คนในครอบครัว, จิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาก็ได้ อาจจะทำให้น้อง ๆ สบายใจมากขึ้น และกลับมามีไฟอ่านหนังสืออีกครั้ง
6. ให้รางวัลตัวเอง
เวลาที่น้อง ๆ ทำอะไรสำเร็จสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน เช่น วันนี้น้อง ๆ ทบทวนบทเรียนหรือทำโจทย์ได้ตามที่ตัวเองตั้งเป้าหมายไว้ ก็อย่าลืมให้รางวัลกับตัวเองด้วยน้า ซึ่งรางวัลนั้น จะเป็นการพักเล่นเกมสัก 10 นาที, ดูการ์ตูน หรือพักกินขนมอร่อย ๆ ก็ได้เหมือนกันน
7. พักผ่อนให้เพียงพอ ทำกิจกรรมที่ชอบ
การพักผ่อนนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ดังนั้นพี่อยากให้น้อง ๆ ทุกคนแบ่งเวลาพักผ่อนกันให้ดีด้วย อย่าหักโหมจนเกินไป หรืออาจจะออกไปทำกิจกรรมที่ชอบ อย่าง เล่นกีฬา ดูหนัง อ่านหนังสือนิยาย ก็จะช่วยผ่อนคลายมากขึ้นน
ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกคาดหวังจากตัวเอง หรือคนรอบข้าง ก็อาจจะทำให้เราเผลอกดดันและคิดมากจนกลายเป็นความเครียดไปได้ง่าย ๆ เลยทำให้เกิดอาการหมดไฟ ดังนั้นน้อง ๆ คนไหนที่มีอาการแบบนี้อยู่ ก็ลองค่อย ๆ หาทางแก้ อาจจะพาตัวเองออกจากสภาพแวดล้อมที่ทำให้เครียดก่อนแล้วเอาวิธีเติมไฟอ่านหนังสือที่พี่แนะนำไปปรับให้เข้ากับแนวทางของตัวเอง แล้ววันไหนที่น้อง ๆ พร้อมจะสู้ต่อก็ค่อยเริ่มกันใหม่นะ พี่คอยเอาใจช่วยเสมอออ > <
ติดตาม Podcast ดี ๆ จากพี่ปั้นได้ที่ YouTube Channel : SmartMathPro
บทความ แนะนำ
บทความ แนะนำ
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่อัปเดตอย่างเรียลไทม์ ได้ที่
Line : @smartmathpronews
FB : Pan SmartMathPro ติวคณิต By พี่ปั้น
IG : pan_smartmathpro
Twitter : @PanSmartMathPro
Tiktok : @pan_smartmathpro