น้อง ๆ หลายคนอาจจะเคยได้ยินรุ่นพี่บอกว่าเตรียมสอบเข้ามหาลัยฯ มันหนัก ต้องอ่านหลายวิชา และต้องสมัครสอบ แถมต้องเสียเงินอีกมากมาย T_T เลยอยากจะเตรียมตัวไว้ก่อนล่วงหน้า
แต่สำหรับน้อง ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มยังไง หรือเคยได้ยินเกี่ยวกับระบบ TCAS มาแล้วแต่ยังไม่แน่ใจว่าคืออะไร ? เกี่ยวกับการสอบเข้ามหาลัยฯ ยังไง ? พี่ได้รวมคำตอบมาให้ทุกคนหมดแล้วในบทความนี้ !! ตั้งแต่ทำความรู้จักเลยว่า Dek68 คือรุ่นไหน ไปจนถึงเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ TCAS เช่น ค่าใช้จ่าย และขั้นตอนต่าง ๆ แถมยังมีคลิปแนะแนว + ติว TGAT / TPAT และ A-Level สำหรับ Dek68 ด้วยน้า ถ้าอยากรู้กันแล้วก็เล่ือนลงไปดูด้านล่างได้เลยย
สนใจหัวข้อไหน ... กดอ่านเลย
ToggleDek68 คือรุ่นไหน ?
โดยทั่วไปแล้ว เราจะเรียก “Dek” หรือ “เด็ก” ตามด้วยปีที่เข้าเรียนมหาลัยฯ ดังนั้น Dek68 จึงหมายถึงคนที่จะสอบเข้ามหาลัยฯ ในปี 2568 หรือ น้อง ๆ ม.5 ที่กำลังจะขึ้นม.6 ในปีนี้ รวมถึงเด็กซิ่วปีอื่น ๆ ที่จะซิ่วเข้ามหาลัยฯ อีกครั้งในปี 2568 ก็นับเป็น Dek68 เหมือนกันนน
ขั้นตอนการเตรียมตัวเข้าสู่ระบบ TCAS ของ Dek68
จากที่พี่พูดถึงระบบ TCAS ไปก่อนหน้านี้ ต่อไปพี่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ TCAS กัน
จริง ๆ แล้วระบบ TCAS คือ ระบบกลางสำหรับคัดเลือกนักเรียนเพื่อเข้ามหาลัยฯ ที่เริ่มใช้กันตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีทั้งมหาลัยฯ รัฐและเอกชน (บางแห่ง) รวมกว่า 75 สถาบันเลย
นอกจากหลาย ๆ มหาลัยฯ จะคัดเลือกนักเรียนผ่านระบบนี้แล้ว ระบบ TCAS ยังมีเว็บไซต์ myTCAS ให้น้อง ๆ ได้เข้าไป
เช็กว่ามหาลัยฯ ที่เราอยากเข้าอยู่ในระบบนี้ด้วยไหม ? และเกณฑ์การคัดเลือกของมหาลัยฯ ที่เข้าร่วมในแต่ละรอบ
มีอะไรบ้าง ?
ทั้งยังเป็นเว็บไซต์ที่ใช้สมัครสอบหลายวิชาด้วย ทั้ง TGAT, TPAT1, TPAT2-5 และ A-Level ไปจนถึงการประกาศและยื่นคะแนนในรอบ Admission และ กสพท รวมถึงการจัดการสิทธิ์ในการเลือกคณะ / มหาลัยฯ ก็ทำผ่านเว็บไซต์นี้หมดเลย
นี่ก็เป็นแค่การอธิบายโดยภาพรวมเท่านั้นน เพราะยังมีอีกหลายขั้นตอนเลยที่ Dek68 ต้องเจอกับการสอบเข้ามหาลัยฯ ใน TCAS68 ซึ่งพี่ก็ลิสต์มาให้หมดแล้ว ไปดูกันนน
ศึกษาคุณสมบัติ เกณฑ์การรับ และวิชาที่ต้องสอบว่ามีอะไรบ้าง ?
ก่อนอื่นเลย ถ้าน้อง ๆ Dek68 คนไหนมีคณะในใจกันเรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องมาศึกษาว่าเกณฑ์และคุณสมบัติของแต่ละคณะมีอะไรบ้าง ? เพราะถ้าคุณสมบัติของน้อง ๆ ไม่ตรงกับเกณฑ์การคัดเลือก ขาดคะแนนสอบในบางวิชาไป หรือคะแนนที่ได้ไม่ถึงขั้นต่ำที่คณะกำหนดไว้ก็จะถูกตัดสิทธิ์ทันทีเลยน้า T_T
พี่เลยขอย้ำว่า Dek68 ทุกคนควรศึกษาทั้งคุณสมบัติ เกณฑ์การรับ วิชาที่ต้องสอบ เช่น TGAT / TPAT, A-Level สัดส่วนคะแนนแต่ละวิชา รวมถึงคะแนนขั้นต่ำ ซึ่งน้อง ๆ สามารถดูวิชาที่ต้องสอบในเบื้องต้นแบบแยกตามกลุ่มคณะได้จากตารางที่พี่ทำมาให้ด้านล่างนี้ และแนะนำว่าให้เช็กจากเว็บไซต์ myTCAS อีกทีเผื่อมีการเปล่ียนแปลงด้วยน้าา
ศึกษาระบบ TCAS ให้ดีเพราะมีให้เลือกมากถึง 4 รอบ
ด้วยความที่ระบบนี้เขามีหลายรอบมากทั้งรอบ 1 Portfolio, รอบ 2 Quota, รอบ 3 Admission, และรอบ 4 Direct Admission ซึ่งแต่ละรอบก็มีเกณฑ์ในการคัดเลือกแตกต่างกัน แถมบางคณะ / มหาลัยฯ ก็ไม่ได้เปิดรับทุกรอบอีก T_T
ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลจากปีก่อน ๆ ให้ดีเพื่อที่จะได้วางแผนถูกว่าตัวเองจะต้องใช้คะแนนอะไรหรือสามารถยื่นรอบไหน
ได้บ้าง ? แต่ Dek68 บางคนก็อาจจะยังไม่แน่ใจว่าแล้วเราเหมาะกับรอบไหนล่ะ ? พี่มาอธิบายให้ทุกคนฟังแล้ว ครบจบทั้ง 4 รอบตามนี้เลยย
- รอบ 1 Portfolio เหมาะสำหรับน้อง ๆ Dek68 ที่เป็นสายทำกิจกรรมและมีความสามารถพิเศษไม่ว่าจะเป็นทางด้านกีฬาหรือด้านวิชาการ เพราะรอบนี้จะวัดกันที่ Porfolio (แฟ้มสะสมผลงาน) ที่ยื่นไปนั่นเองง
- ความพิเศษของรอบ 1 Portfolio : สามารถยื่นได้หลายโครงการ ติดได้หลายที่ แต่น้อง ๆ จะยืนยันสิทธิ์ได้แค่ที่เดียวเท่านั้นน้า
- สิ่งที่ใช้ยื่น : GPAX, TGAT, TPAT, การสอบวัดความรู้อื่น ๆ, แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
- รอบ 2 Quota เหมาะกับคนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ที่แต่ละมหาลัยฯ กำหนด, มีความสามารถพิเศษ หรือมีเงื่อนไขตรงกับคณะ / มหาลัยฯ ต้องการ เช่น โควตาเรียนดี โควตาโรงเรียนเครือข่าย เป็นต้น
- ความพิเศษของรอบ 2 Quota : สามารถยื่นได้หลายโครงการ ติดได้หลายที่ แต่น้อง ๆ จะยืนยันสิทธิ์ได้แค่ที่เดียวเท่านั้น
- สิ่งที่ใช้ยื่น : GPAX, TGAT, TPAT, A-Level, การสอบวัดความรู้อื่น ๆ
- รอบ 3 Admission เหมาะกับน้อง ๆ Dek68 ที่ต้องการยื่นคะแนนสอบในรอบที่ใช้คะแนนสอบเพียงอย่างเดียว เพราะเป็นรอบที่จะใช้คะแนนกลางอย่าง TGAT, TPAT, A-Level ในการสมัครและยื่นคะแนน ซึ่งจะยื่นพร้อมกันในช่วงเดือน พ.ค. (จัดอันดับรวมกันทั้งคณะทั่วไปและกสพท)
- ความพิเศษของรอบ 3 Admission : ยื่นได้สูงสุด 10 อันดับ มีการประมวลผล 2 ครั้ง เพื่อลุ้นติดตัวสำรอง แต่จะประกาศผลแค่ 1 อันดับที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก
- สิ่งที่ใช้ยื่น : GPAX, TGAT, TPAT, A-Level
- รอบ 4 Direct Admission หรือรอบรับตรงอิสระ เป็นรอบสำหรับน้อง ๆ Dek68 ที่ยังไม่เจอคณะ / มหาลัยฯ ที่ถูกใจ หรือยังไม่ได้ยืนยันสิทธิ์ในรอบ 1-3 ที่ผ่านมา (ถ้าใครยืนยันแล้วต้องสละสิทธิ์ก่อน) ก็มาสมัครรอบนี้ได้เลยยย แต่ !! รอบนี้ไม่ได้เปิดในทุกคณะ / มหาลัยฯ ดังนั้นน้อง ๆ ต้องเช็กให้ดี ๆ ก่อนสมัครด้วยน้าา
- ความพิเศษของรอบ 4 Direct Admission : สามารถยื่นได้หลายโครงการ ติดได้หลายที่ แต่ยืนยันสิทธิ์ได้แค่ที่เดียวน้า
- สิ่งที่ใช้ยื่น : GPAX, TGAT, TPAT, A-Level
ศึกษาเรื่องค่าใช้จ่ายทั้ง 4 รอบ
อย่างที่บอกไปว่า การสอบเข้ามหาลัยฯ มันก็ต้องมีค่าใช้จ่ายด้วยใช่ไหม พี่จะพามาดูว่าแล้วแต่ละรอบเนี่ย เขามีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันยังไง ? ซึ่งถ้าให้พี่สรุปแล้ว ก็ประมาณนี้เลยย
รอบ 1 Portfolio
น้อง ๆ สามารถสมัครโดยตรงกับมหาวิทยาลัยฯ ที่ต้องการได้เลยโดยแต่ละโครงการที่เปิดก็จะมีค่าสมัครเฉล่ียอยู่ที่
200 – 1,000 บาท ต่อโครงการ ขึ้นอยู่กับมหาลัยฯ กำหนด
แต่บางโครงการก็จำเป็นที่จะต้องใช้คะแนนสอบอื่น ๆ ด้วย เช่น IELTS, SAT, BMAT เป็นต้น ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบรอบนี้อาจจะอยู่ที่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นนั่นเอง (แอบกระซิบว่าโครงการที่เน้นใช้ Portfolio อย่างเดียวก็มี
เหมือนกัน ซึ่งน้อง ๆ ก็จะจ่ายแค่ค่าสมัครเท่านั้น)
รอบ 2 Quota
เป็นอีกรอบที่สมัครกับทางมหาลัยฯ โดยตรงเลย ซึ่งค่าสมัครของแต่ละโครงการจะอยู่ที่ 200 – 500 บาท ขึ้นอยู่กับ
มหาลัยฯ กำหนด แต่บางคณะ / มหาลัยฯ ก็จำเป็นต้องใช้คะแนนสอบอื่น ๆ หรือวิชาเฉพาะในการยื่น เช่น NETSAT หรือ CU-TEP ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณหลักร้อยไปจนถึงหลักพัน
รอบ 3 Admission
เป็นรอบที่จะใช้คะแนนจากข้อสอบกลางอย่าง TGAT / TPAT, A-Level ในการยื่นสมัคร โดย TPAT2-5 จะอยู่ที่วิชาละ 140 บาท, A-Level วิชาละ 100 บาท, และ TPAT1 กสพท 800 บาทนอกจากนี้ยังมีบางคณะ / มหาลัยฯ ที่จำเป็นต้องใช้วิชาเฉพาะในการยื่นรอบ 3 เหมือนกัน ซึ่งค่าสมัครจะอยู่ที่ 300 – 500 บาท
แต่สำหรับวิชา TGAT น้อง ๆ สามารถสมัครได้ฟรี เพราะทาง ทปอ. เป็นคนสนับสนุนค่าสมัครสอบวิชานี้ให้ โดยน้อง ๆ ต้องกดยืนยันขอรับเงินสนับสนุนค่าสมัครสอบในตอนที่สมัครสอบ TGAT / TPAT2-5 ด้วยนั่นเอง
ส่วนค่าใช้จ่ายในการเลือกอันดับคณะ / มหาลัยฯ สำหรับ TCAS68 น้อง ๆ สามารถจัดอันดับได้ฟรีถึง 7 อันดับเลย
ดังนั้นค่าใช้จ่ายในรอบ 3 จะอยู่ที่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันโดยประมาณน้าา
รอบ 4 Direct Admission
เป็นรอบที่จะใช้คะแนนข้อสอบกลาง (TGAT, TPAT, A-Level) แต่น้อง ๆ จะต้องสมัครกับทางมหาลัยฯ โดยตรงน้าา ซึ่ง
ค่าสมัครจะอยู่ที่ประมาณ 300 – 1,000 บาท (มหาลัยฯ เป็นคนกำหนด) ซึ่งน้อง ๆ ก็สามารถสมัครได้มากกว่าหนึ่งคณะ /
มหาลัยฯ ทำให้ในรอบนี้ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับว่าทุกคนสมัครไปมากแค่ไหน
เช็กกำหนดการ TCAS68 ให้ดี
หลังจากที่หาข้อมูลทั้งคณะ / มหาลัยฯ ที่อยากเข้าในแต่ละรอบ รวมถึงค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ไว้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ
การติดตามกำหนดการจาก ทปอ. อย่างใกล้ชิด เพราะก่อนที่จะเข้าสู่ระบบ TCAS อย่างเต็มตัว ทุกคนต้องลงทะเบียน myTCAS กันก่อน (ถ้ามหาลัยฯ ที่น้อง ๆ อยากเข้าไม่ได้เข้าร่วมกับระบบ TCAS ก็ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนก็ได้น้าา)
ซึ่งตอนนี้ทาง ทปอ. ยังไม่ได้ประกาศกำหนดอะไรออกมา แต่เพื่อให้ Dek68 ทุกคนได้ลองแพลนเตรียมตัวสอบกันก่อน พี่ก็เลยเอากำหนดการรับสมัครของรอบ 1 – รอบ 4 มาฝาก จะเป็นยังไงบ้าง ไปดูกันน
รอบ 1 Portfolio
- เริ่มรับสมัครช่วงเดือน : ก.ย. (ขึ้นอยู่กับแต่ละมหาลัยฯ กำหนด)
รอบ 2 Quota
- เริ่มรับสมัครช่วงเดือน : ก.พ. (ขึ้นอยู่กับแต่ละมหาลัยฯ กำหนด)
รอบ 3 Admission
- เปิดรับสมัคร : 6 – 12 พ.ค. 68
รอบ 4 Direct Admission
- เปิดรับสมัคร : 27 พ.ค. – 14 มิ.ย. 68
นี่ก็เป็นกำหนดการแบบอัปเดตล่าสุดจากทาง ทปอ. เลยย น้อง ๆ Dek68 เริ่มนับถอยหลังกันแล้วว เห็นได้ว่าวันสอบใกล้ขึ้นมากกว่าเดิม ถ้าเทียบจากปีก่อน ถ้าใครอยากลองดูข้อมูลกำหนดการอื่น ๆ เพิ่มเติม ก็สามารถเข้าไปเช็ก กำหนดการ TCAS68 ก่อนก็ได้เลยย พี่สรุปไทม์ไลน์ในแต่ละเดือน ที่ทุกคนควรติดตามเอาไว้แล้วว
ดู Test Blueprint เพื่อเข้าใจว่าข้อสอบออกอะไรบ้าง ?
รู้จักระบบสอบ กำหนดการสอบไปแล้ว ก่อนอ่านหนังสือจริง ๆ เราก็ต้องมาดูกันก่อนว่าข้อสอบในแต่ละวิชาออกอะไร
บ้าง ? เพื่อให้อ่านหนังสือได้แบบตรงจุด ซึ่งน้อง ๆ สามารถเข้าไปดู Test Blueprint ของวิชาที่ต้องสอบได้ผ่านทางเว็บไซต์ของ myTCAS เลยย
โดยจะมีวิชา TGAT, TPAT2-5, และ A-Level ที่จะบอกตั้งแต่เรื่องที่ออกสอบ จำนวนข้อ สัดส่วนคะแนนในแต่ละพาร์ต
ไปจนถึงตัวอย่างข้อสอบพร้อมเฉลยเลยนะ (ยกเว้น TPAT1 ที่จะไม่มีประกาศออกมาแบบ official น้าา)
เรียกว่าพอจะทำให้น้อง ๆ มองเห็นภาพรวมของข้อสอบแต่ละวิชามากขึ้น และอาจช่วยให้ทุกคนได้วางแผนล่วงหน้าว่าเราควรอ่านอะไรก่อน อะไรหลัง ควรเรียนเสริมวิชาไหนเป็นพิเศษไหม ? หรือแบ่งเวลาอ่านวิชาอะไรมากกว่ากันดี
แต่ทั้งนี้การดู Test Blueprint แค่อย่างเดียวอาจจะยังไม่พอน้า พี่แนะนำให้ Dek68 ทุกคนลองหาแบบฝึกหัดหรือข้อสอบเก่า มาลองทำด้วยจะดีกว่า เพราะการเจอโจทย์จริง ๆ จะทำให้เราชินกับการทำข้อสอบ รู้ว่าข้อสอบจะหลอกตรงจุดไหน
ช่วยลดความผิดพลาดตอนลงสนามจริงได้เยอะมากกก เป็นอีกเทคนิคที่ช่วยอัปคะแนนสอบของเราที่น้อง ๆ
ไม่ควรพลาดกันเลยย
เตรียมตัววางแผนอ่านหนังสือ
หลังจากทำความรู้จักระบบ TCAS รวมถึงได้เห็นข้อสอบผ่าน Test Blueprint กันไปบ้างแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยฯ และวางแผนอ่านหนังสือ !! ซึ่งพี่เชื่อว่าน้อง ๆ ม.5 หรือ Dek68 ที่เข้ามาอ่านบทความนี้คงมีระยะเวลาในการเตรียมตัวสอบสนามต่าง ๆ ใน TCAS68 แตกต่างกัน
บางคนอาจจะอยู่ในช่วงปิดเทอมระหว่างรอขึ้นม.6 มีเวลาเยอะหน่อยก็สามารถวางแผนทั้งการอ่านหนังสือ การเรียนพิเศษได้เต็มที่ หรือบางคนก็อาจจะอยู่ในช่วงเปิดเทอมที่ต้องแบ่งเวลาทั้งการเรียนที่โรงเรียน และการเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยฯ แต่ไม่ว่าจะเหลือเวลาเท่าไร พี่ก็แนะนำให้ทุกคนวางแผนอ่านหนังสือกันด้วยน้าา
เพราะพี่ว่าวิธีนี้จะช่วยให้น้อง ๆ แบ่งเวลาแต่ละวิชาได้ดีขึ้น (แนะนำว่าให้จัดตารางโดยยึดตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองจะดีที่สุด เพราะเราจะทำตามตารางนั้นได้นาน) แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่าควรจะจัดตารางอ่านหนังสือยังไง พี่ก็มีตัวอย่างของตาราง
อ่านหนังสือในหลาย ๆ วิชามาให้ดูเป็นแนวทางด้วยในบทความ ตารางอ่านหนังสือ Dek68 สามารถเข้าไปดูแล้วปรับได้ตามความเหมาะสมได้เลยยย
ยิ่งถ้าน้อง ๆ ได้มีโอกาสวางแผนในการเตรียมสอบเยอะมากเท่าไร โอกาสที่เราจะสอบติดคณะที่เราอยากเข้าก็มีมากเท่านั้น แต่สำหรับ Dek68 ที่ยังไม่มีแพลนว่าจะเริ่มเก็บเนื้อหายังไงดี อยากได้คนช่วยไกด์ให้ว่าควรเริ่มจากตรงไหนก่อน พี่ก็ขอแนะนำตัวช่วยอย่าง คอร์สเตรียมสอบมหาลัยฯ ของ SmartMathPro ให้เลยน้า เพราะมีคอร์สให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น TGAT, TPAT1, TPAT3, TPAT5 นอกจากนี้ยังมีคอร์ส A-Level คณิต 1, คณิต 2, ภาษาไทยและสังคมศึกษาซึ่งสอนโดยติวเตอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละวิชาด้วยไม่ว่าจะเป็น พี่ปั้น, อ.ขลุ่ย, พี่หมออู๋, ครูกอล์ฟ, พี่ลัคกี้, และพี่เกม GAT ENG COOL COOL
โดยในแต่ละคอร์สสอนเนื้อหาปูพื้นฐาน อิงตาม Test Blueprint ปีล่าสุด (ใครที่พื้นฐานไม่แน่นก็สามารถเรียนได้) พร้อมพาตะลุยโจทย์แบบไต่ระดับ ตั้งแต่โจทย์ซ้อมมือไปจนถึงข้อสอบเก่าหรือโจทย์ที่ใกล้เคียงกับข้อสอบจริงเลย แถมยังแจกเทคนิคในการทำข้อสอบที่จะช่วยให้น้อง ๆ ทำข้อสอบได้เร็วขึ้นและช่วยเพิ่มโอกาสในการอัปคะแนนให้อีกด้วย และสำหรับน้อง ๆ คนไหนที่สมัครตอนนี้ รับฟรี Unseen Mock Test ชุดพิเศษ พร้อมสิทธิพิเศษต่าง ๆ ประจำเดือน ถ้าใครสนใจ คลิก เข้ามาดูรายละเอียดแต่ละคอร์สได้เลยยย
พี่แนะนำว่าให้เริ่มเตรียมตัวตั้งแต่ตอนนี้เลยน้า เพราะแต่ละวิชาก็มีเนื้อหาค่อนข้างเยอะ และเวลาในการเตรียมสอบก็น้อยลงจากปีที่แล้ว ดังนั้นยิ่งเราเริ่มเร็วเท่าไร น้อง ๆ ก็จะยิ่งมีเวลาฝึกทำโจทย์ซ้ำบ่อย ๆ จนคล่อง เหลือเวลาให้ทบทวนและปิดจุดอ่อนของตัวเองก่อนวันสอบจริงด้วยยย
ดูคลิปติว TGAT / TPAT / A-Level TCAS68
ติดตามคลิปอื่น ๆ ได้ทาง YouTube Channel : SmartMathPro
เป็นยังไงกันบ้างง พอจะเห็นภาพรวมขั้นตอนการเตรียมตัวสอบเข้ากันแล้วใช่ไหมมม พี่ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้
น้อง ๆ ม.5 หรือ Dek68 ได้เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ระบบสอบเข้ามหาลัยฯ ของ TCAS68 กันง่ายขึ้น และถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ Dek68 คนไหนอยากรู้เทคนิคเตรียมตัวอ่านหนังสือต่อ สามารถเข้าไปดู >> แจกทริคการเตรียมตัวยังไงให้
สอบติด ได้เลยน้าา มีเทคนิคดี ๆ เพียบเลยย
บทความ แนะนำ
บทความ แนะนำ
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่อัปเดตอย่างเรียลไทม์ ได้ที่
Line : @smartmathpronews
FB : Pan SmartMathPro ติวคณิต By พี่ปั้น
IG : pan_smartmathpro
X : @PanSmartMathPro
Tiktok : @pan_smartmathpro